พัฒนาการของตัวแทน

พัฒนาการของตัวแทน
มีผู้บอกกล่าวว่าภาพพจน์ตัวแทนยิ่งนับวันยิ่งแย่ลง แต่ผมมั่นใจ เต็มร้อยว่า ภาพลักษณ์ของตัวแทนในปัจจุบันนี้ ได้พัฒนาการไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมากมาย เรามีตัวแทนที่มาจากหลากหลายอาชีพมากขึ้น และในบางอาชีพ ต้องเรียนแทบเป็นแทบตายกว่าจะจบได้ปริญญาทางวิชาชีพนั้น แต่แล้วก็มาลงเอยที่งานขายประกันชีวิต ซึ่งไม่ได้ใช้ความรู้ทางวิชาชีพที่เล่าเรียนมา

ใครจะเชื่อว่าคนจบแพทย์ คนจบวิศวะ จะมาเป็นตัวแทนขายประกัน ชีวิต เรายังมีเภสัชกร ทนายความ ข้าราชการและครูและนักบริหารอีกจำนวนมากที่เข้ามาสู่ธุรกิจประกันชีวิต

เดี๋ยวนี้คนจบปริญญาตรีแล้วมาทำงานขายประกันชีวิต เป็นเรื่องปกติ เสียแล้ว สำรวจดูแล้วน่าจะมากกว่าครึ่งที่จบปริญญาตรีเป็นอย่างต่ำ ต่าง กับสมัยผมเป็นตัวแทน ใครจบปริญญาตรีถือว่าเท่แล้ว ครั้นเมื่อถามระดับผู้บริหารตัวแทน ต่างก็ยอมรับว่าปัจจุบันการ Recruit ตัวแทนง่ายกว่าเก่า และมีวิวัฒนาการถึงขบวนการต่างๆ มากขึ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อ ครั้งผมสอบใบอนุญาตตัวแทน สำนักงานประกันภัยใช้โรงเรียนวัดเป็นสถานที่สอบ

แต่ในปัจจุบันสอบในสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และ ยังมีการสอบทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นที่นิยมชมชอบของผู้สมัครสอบด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นว่าขบวนการตัวแทนมีวิวัฒนาการสูงขึ้นตามยุคตามสมัย และที่น่าชื่นชมมากคือ ปัจจุบันมีตัวแทนทำงานเต็มเวลาจำนวนมาก ตัวแทนทำงานไม่เต็มเวลาแทบจะสูญพันธุ์แล้ว เท่ากับเขามั่นใจเต็มร้อยใน อาชีพตัวแทน

และใช่ว่าตัวแทนจะลดน้อยลง ทั้งๆ ที่จะขอรับใบอนุญาตหรือต่อใบ อนุญาตแต่ละครั้งก็ต้องมีการอบรม เสียค่าใช้จ่ายทุกครั้งทุกปี แต่ก็ดูเป็นเรื่องที่ทุกคนเต็มใจยอมรับ ไม่ขัดข้องเรื่องเงินค่าอบรม ขอเพียงให้อำนวย ความสะดวกเรื่องสถานที่และเวลาเท่านั้น มีการสอบรับใบอนุญาตตัวแทน กันทุกเดือน เดือนละจำนวนมาก

บุคลิกภาพของตัวแทนยุคปัจจุบันก็ดูดีมีความภูมิฐานและสง่างาม ทั้งแต่งตัวดี สะอาดตา และมีการสร้างเอกลักษณ์ของอาชีพเพิ่มขึ้น

ถ้าภาพลักษณ์ไม่ดีแล้ว อาชีพตัวแทนขายประกันชีวิตจะได้รับความนิยมขนาดนี้หรือ

อาจจะมองว่า เดี๋ยวนี้หลายๆ องค์กร ให้ความสนใจในการขายประกันชีวิตอย่างล้นหลาม เช่น ธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ทำให้ภาพพจน์การขายประกันชีวิตมีคุณค่ามากขึ้น

คนที่บอกว่า ตัวแทนภาพพจน์ไม่ดีนั้น ยอมรับคงมีบ้าง แต่ไม่ใช่ตัว แทนทังสี่แสนคน เนื่องจากตัวแทนมีมาก จึงย่อมมีผู้ที่ทำงานที่ผิดพลาด กันบ้างเป็นปกติ ซึ่งในเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เพราะตัวแทนเป็นคนชั่วร้าย แต่น่าจะมาจากองค์ประกอบบางประการ ซึ่งได้มีการพิจารณาปรับปรุงจากผู้ทำหน้า ที่พัฒนาธุรกิจ เช่น คปภ. หรือสมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมตัวแทน และที่ปรึกษาการเงินอยู่ตลอดเวลา อาทิเช่น

ขบวนการให้ความรู้เพื่อการประกอบวิชาชีพอย่างแจ่มชัดมากขึ้น การทำงานผิดพลาดบางครั้งเกิดจากการขาดความรู้ที่ชัดเจนและถูกต้องใน งานวิชาชีพ ไม่ได้เป็นเรื่องตั้งใจทำผิดพลาด

เนื่องจากการสร้างตัวแทนอย่างไม่ขาดช่องว่าง บางทีการอบรมหลังจากสอบรับใบอนุญาตแล้ว อาจสนองความต้องการไม่ทัน เรื่องความ ละเอียดในการทำงานภาคปฏิบัติ เราต้องยอมรับว่าค่อนข้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อบรมครั้งเดียวไม่ชัดเจนพอ เช่น เรื่องการคัดกรองลูกค้า การเขียนเอกสารที่เกี่ยวกับการขอเอาประกันชีวิต สุดท้ายที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหาเอามากๆ ก็คืองานบริการผู้เอาประกัน งานนี้เป็นเรื่องนานาจิต ตัง ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง ที่ไม่ถูกใจก็ว่าตัวแทนไม่ดี แต่เรื่องจริงอาจจะไม่ เป็นเช่นนั้นก็ได้

ในจำนวนตัวแทนสี่แสนคนนี้ ก็เหมือนงานอื่นๆ ย่อมมีคนไม่ดีจริงๆปะปน เช่น คนนิสัยไม่ดี คนเห็นแก่ตัว คนเห็นแก่ได้ คนขาดความซื่อสัตย์ คนคดโกง ฯลฯ เราก็ยอมรับว่ามีจริง ซึ่งก็มีกฎกติกาควบคุมไม่ให้ตัวแทนไม่ดีนั้น ทำให้ตัวแทนจำนวนมากเสียหายหรือเดือดร้อนไปด้วย

ผมจึงขอให้ท่านผู้อ่าน ได้ให้ความเป็นธรรมกับตัวแทนและพิจารณาตัวแทนอย่างเข้าใจ อย่างไรก็ตาม ถ้ามองเห็นว่าประกันชีวิต ดีมีประโยชน์แล้ว ท่านสามารถเลือกซื้อประกันชีวิตกับตัวแทนคนที่ท่านรู้จักและไว้วางใจที่สุด ก็แล้วกันครับ
 
สยามธุรกิจ