เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

True

First Look

ด้วยกิตติศัพท์ของบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น ที่มีหนี้อยู่เยอะ แต่ราคาก็พุ่งไปมากหลังจากมีข่าว China Mobile จะมาเทคโอเวอร์
บอกตามตรงด้วยความเห็นส่วนตัวแล้วผมไม่เคยมองหุ้นตัวนี้จริงจัง เพราะด้วยความที่หนี้เยอะนั่นเอง และ บริษัท operate at loss คือ
ขาดทุนมาโดยตลอด และอีกอย่างคือธุรกิจโทรคมเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างใช้เงินลงทุนมหาศาล (capital intensive) ยังไม่พอ ยังทำธุรกิจในด้านเทคโนโลยี
ซึ่งเปลี่ยนเร็วและเข้าใจได้ยาก ซึ่งแทบจะไม่ตรงกับหุ้นที่วอร์เรน บัฟเฟต์ แนะนำเลย ผมก็เลยมองข้ามไป แต่เมื่อมีคน request มาผมก็จะลองวิเคราะห์ดูสักครั้ง

http://upic.me/i/34/uhvn1.png

ด้วย P/E N.A. คือ ยังไม่มีกำไร แต่ไม่มีผลตอบแทนเงินปันผลเรามาดูว่าบริษัทนี้มีอะไรดีครับ

มาดูที่หน้าสรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียนกัน

http://upic.me/i/jd/o3gb1.png

จะเห็นว่า P/BV พุ่งไปที่กว่า 30 เท่า นั่นคือราคามากกว่ามูลค่าทางบัญชีถึง 30 เท่านั่นเอง

http://upic.me/i/oy/qigr1.png

ข้อสังเกตคือยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่องๆ โดยมีพัฒนาการจากปีก่อนโดยใน งวด 6 เดือนรายงานกำไรต่อหุ้น 0.15 บาท

http://upic.me/i/5p/zf8t1.png

แต่ถ้ามาดูทางฝั่งทรัพย์สินจะพบว่าหนี้สินก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกิดจากการกู้เงินมาทำธุรกิจนั่นเอง

ซึ่งธุรกิจที่ทำเงินหลักให้ทรู จะมีอยู่ 3 ตัวหลักๆ คือ ภาคมือถือ (mobile) ภาคอินเตอร์เน็ต (broadband) และ ภาคสมาชิกทรูวิชั่นส์
มาดูที่ Mobile ก่อน  ของทรู มีผู้ใช้บริการ 22.9 ล้านราย โดยเป็นเติมเงิน 19.7 ล้านรายและรายเดือน 3.2 ล้านรายโดยมี
รายได้เฉลี่ยต่อหัว หรือ arpu (average revenue per user) อยู่ที่ 124 ต่อเดือน (123 ในปี 2555 และ 113 ในปี 2554)

พูดง่าย ๆ ว่า arpu เป็นตัวชี้วัดที่ดีสำหรับผู้เล่นในธุรกิจ mobile ว่าลูกค้าหนึ่งรายมีรายได้เท่าไหร่ ผมขอยก dtac และ ais มาให้ดู
ดีแทคในไตรมาสที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการรวม 27.5 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 239,434 เลขหมาย
เป็นลูกค้าไตรเน็ตแล้ว 3.7 ล้านเลขหมาย ARPU  231 บาทต่อเลขหมายต่อเดือน

เอไอเอสมีผู้ใช้งานรวม 39 ล้านเลขหมาย ทั้งนี้ผู้ใช้งาน 3G 2100 MHz มีจำนวน 10.5 ล้านเลขหมาย
คิดเป็น 27% ของลูกค้าทั้งหมด  ส่วนรายได้ต่อเลขหมายหรือ ARPU  236 บาทต่อเลขหมายต่อเดือน

ที่มาข้อมูล: https://www.blognone.com/node/50789
ทั้งนี้สามารถอ่านได้ในงบการเงินของ Advance และ dtac ครับ

จะเห็นได้ว่า True มีรายได้ต่อหัวน้อยกว่าอย่างมาก เพราะกลยุทธ์ลดแลกแจกแถมนั่นเอง

มาดูภาค ทรูวิชั่นส์กันบ้าง มีผู้บริการ รวม 2,370,972 ราย เป็นผู้ใช้บริการแบบ premium 761,274 ราย

ที่ ทรูออนไลน์หรือบริการ internet ละโทรศัพท์บ้านนั้น อย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน คนเราใช้มือถือมากกว่าโทรศัพท์บ้านเสียอีก
ทำให้แนวโน้มโทรศัพท์บ้านลดลงเรื่อยๆ  แต่สำหรับบริการ internet มีส่วนแบ่งการตลาด 36.8%  โดยมีผู้ใช้บริการ
1,809,600 ราย (broadband) โดยธุรกิจบรอดแบนด์เป็นธุรกิจที่ (คาดว่า) น่าจะเติบโตสูงเพราะ อัตราการใช้งานของ
ประเทศไทยนั้นอยู่ที่ร้อยละ 22.1 ในขณะที่นโยบายรัฐบาลนั้นต้องการจะผลักดันให้ไปสู่ร้อยละ 80 เลยทีเดียว

ตัวเลขด้านคุณภาพของธุรกิจค่อยข้างดูดี เรามาดูงบการเงินกันดีกว่า
ณ สิ้นปี 2556 กลุ่มทรูมีเงินกู้ยืมระยะยาว(รวมส่วนที่ถึงกำหนดชำระใน1ปี) จำนวน86.2 พันล้านบาท (แปดหมื่นหกพันสองร้อยล้านบาท)
โดยลดลงเพราะมีการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน แต่ก็ยังเป็นจำนวนที่เยอะมาก (ทั้งยังมีภาระค่าเช่าต่อกองทุนอีก)
Note: ทรูยังติดค่าเชื่อมต่อโครงข่ายกับ CAT Telecom ประมาณ 14.1 พันล้าน แต่ CAT Telecom ยังมีปัญหากับบริษัทอื่นอยู่
ทำให้ตอนนี้ ทรูยังบอกปัดตรงส่วนนี้ (ซึ่งอาจจะมีภาระดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก)

ว่าด้วยกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
สิ่งที่ทรูนำมาขายเป็นกองทุนหลัก ๆ คือ
1. กรรมสิทธิ์ในเสาโทรคม 6000 เสา
2. กรรมสิทธิ์ในระบบ fiber optic
3. สิทธิ์ในการรับประโยชน์จากรายได้สุทธิที่เกิดจากค่าเช่าทรัพย์สินโทรคม
โดยมูลค่าขายได้ทั้งหมด 58,080 ล้านบาท โดยเข้าซื้อเอง 19,306.01 ล้านบาท
สรุปดีลนี้คือ ได้เงินมาทั้งหมด 38773.99 ล้านบาท แต่จ่ายค่าเช่าเข้ากองทุนปีละ 5 พันล้านบาท (อันนี้ค่อนข้างจะโคตรสรุปนะครับ จริงๆ ที่เหลือเป็นรายละเอียดด้านเทคนิค)
โดยในสัญญาจะระบุรายละเอียดที่จะสามารถขึ้นราคาค่าเช่าประมาณ 2.7 - 5% ต่อปี แล้วแต่อุปกรณ์ และค่าปรับในกรณีไม่จ่ายไว้

อ่าน 56-1 มาถึงตรงนี้ถึงกับปวดตาเลยทีเดียวครับ
ขอไฮไลต์สิ่งที่ผมเห็นหนึ่งอัน ง่าย ๆ เลยสำหรับผมคือจำนวนหนี้สินหมุนเวียน
จาก 29,949.158 (2553) -> 40,761.094 (2554) -> 62,987.187 (2555) -> 107,347.656 ล้านบาท (2556)
แค่นี้ผมเห็นก็เหนื่อยแล้ว เพราะต้องวิ่งหาเงินมาหมุนหนี้จำนวนแสนล้านบาท

ขอให้ข้อสังเกตว่าตราบใดที่กลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ยังคง back อยู่น่าจะยังไม่มีปัญหาเรื่องหาเงินกู้เพื่อขยายธุรกิจ
ในขณะเดียวกันในฐานะอันดับ 3 ในตลาด mobile และแนวโน้มที่ขยายฐานผู้ใช้ได้เรื่อยๆ  และด้วย arpu ที่ยังต่ำกว่าที่ 1 และ 2
อย่างมาก 124 บาทต่อหัว เทียบกับ 231 (DTAC) และ 236 (AIS)
ในขณะที่ ธุรกิจอินเตอร์เน็ตที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ก็โดน 3BB เข้ามาตีชิง คงจะต้องป้องกันไว้ให้ได้ จะเห็นว่า True เองก็ออก promotion
มาชนในเรื่อง Fiber obtics นั่นเอง

อีกตัวอย่างหนึ่งที่อยากจะยกให้เห็นคือบริษัทที่ Operate At Loss เพื่อสร้าง scale เช่น Amazon จนมี Volume มหาศาล
และหาวิธีผันตัวเองเพื่อเพิ่ม margin ได้โดยการตัดพ่อค้าคนกลาง ยกตัวอย่างเช่น การพิมพ์หนังสือเองโดยไม่ต้องพึ่งสำนักพิมพ์ในอเมริกา
ในที่นี้แสดงว่า True ใช้วิธีกู้เพื่อขยายธุรกิจเก็บกิน market share

หรือบริษัทที่มีค่าเสื่อมมหาศาลเช่น DirectTV  กำไรจะต่ำเตี้ยติดดินแต่ในขณะที่ subscriber จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันหนึ่งที่
ไม่ต้องลงทุนโครงข่ายจำนวนมหาศาลแล้วจะเกิด free cashflow จำนวนมหาศาลตามมา

ข้อสังเกตคือ ในปี 2556 ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของ True เพิ่มขึ้น 50.3 จากปีก่อน 11.5 พั นล้านบาท จาก
การร่นระยะเวลาในการตัดค่าเสื่อมให้สั้นลง รวมทั้งค่าตัดจำหน่ายจาก license 2.1 GHz
การตั้งค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายสูงๆ  หรือที่เรียกว่า Overstate Amortization/Depreciation นั้นเป็นการกดกำไร
อย่างหนึ่งที่ทำได้โดยถูกกฎหมาย และการที่ผมได้ดูค่าเสื่อมราคาและการตัดจำหน่ายของ True เมื่อเทียบกับ Dtac และ Advanc ทำให้พบประเด็นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งครับ
ปี 2554 True 14,883.121 Advanc 17,675.273 Dtac 10,515.34 ล้านบาท
ปี 2555 True 17,151.752 Advanc 15,629.877 Dtac 11,464.79 ล้านบาท
ปี 2556 True 22,208.877 Advanc 16,541.144 Dtac 13,694.93 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าค่าเสื่อมของ True พุ่งขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญครับ เพราะว่า ได้ทำการร่นระยะเวลาตัดค่าเสื่อมลง ตัวหารลดลงทำให้ต้องตัดต่อปีมากขึ้นนั่นเอง
ซึ่งอันนี้ถ้าไปดูในรายการ balance sheet ก็จะเห็นว่าลงทุนค่าอุปกรณ์ ที่ดินอาคาร ใกล้เคียงกับเดิมไม่ต่างกันมาก แต่ True ค่อนข้างลงค่าเสื่อมเยอะมาก

พอดูอย่างนี้แล้วสิ่งที่ผมจะให้ข้อสังเกตเพิ่มเติมก็คือ รายการขายกองทุนโครงสร้างพื้นฐานนั้น สามารถนำมา "คิด" เป็นกำไรได้
เพื่อทำการ boost รายได้ในการรายงานตลาดหลักทรัพย์ แต่ True ทำการนำรายการนี้เข้าไปใน surplus
หรือกำไรสะสมโดยตรงเพื่อให้ไม่มีผลต่องบกำไรขาดทุน (แต่ไปแสดงในงบกระแสเงินสด) ซึ่งน่าจะเป็นนโยบายของผู้บริหารที่
ต้องการทำกำไรให้ต่ำ ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ทำให้ธุรกิจนั้นขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีแต่กำไรไม่มี

แต่อย่าพึ่งกดซื้อนะครับ ณ ตอนนี้สิ่งที่ผมกังวลก็คืออัตราส่วนทรัพย์สินหมุนเวียน และหนี้สินหมุนเวียน ซึ่งค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว
True จะต้องหาเงินสดมาโปะทุกปีอย่างน้อย 3-4 หมื่นล้านทุก ๆ ปีเพื่อให้กระแสเงินสดยังคงหมุนเวียนคล่องๆ อยู่ ซึ่งกลยุทธ์ที่ผ่านมา
คือกู้ระยะสั้น และออกหุ้นกู้เพิ่มนั่นเอง (หรือออกหุ้นสามัญเพิ่ม)

ที่น่าสนใจสำหรับผมเองคือถ้ามองในระยะยาวแล้วหากถือหุ้น True ไว้เป็นระยะเวลามากกว่า 5 ปีแล้วมันจะทำผลกำไรให้ผมเท่าไหร่
เนื่องจากว่าผมชอบที่จะถือหุ้นยาว ๆ และมองมันเติบโตโดยที่ผมไม่ต้องทำอะไรผมก็จะดูว่ากำไรสะสมมันเติบโตขึ้นทุกปี ๆ
แล้วมันจะส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

http://www.bloomberg.com/quote/TRUE:TB/chart
ราคาจาก 1.54 บาท เป็น 10.90 บาท (ณ วันที่ 25 สิงหาคม)

ในระยะเวลา 5 ปี ราคาขึ้นๆ ลงๆ แต่มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างที่เห็นในกราฟครับ ราคาที่ตกลงส่วนใหญ่เมื่อเช็ควันที่จะเป็นวันที่ dilute ลงจากจำนวนหุ้นที่เพิ่มทุน

My Take: Neutral
สำหรับตัวผมเอง ธุรกิจที่พึ่งพาเงินกู้จำนวนมหาศาลเช่นนี้ต้องใช้ความเก่งกาจด้านการเงิน และ back (กลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์) ทางการเงินที่ดีมาก ณ ตอนนี้คงต้องขอบาย (ลาก่อน)
สำหรับคนที่มั่นใจและอยากซื้อ ผมแนะนำครับให้ซื้อเมื่อราคาตก (จากการเพิ่มทุน) แล้วถือไว้ในระยะยาวจะสร้างผลตอบแทนได้
ประสบการณ์ส่วนตัว ในแง่ของการดำเนินธุรกิจ True ค่อนข้างเขี้ยวในการทำธุรกิจมาก แต่เด่นในเรื่องจ้างคน ผนวกกับกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์อยู่
เชื่อได้ว่ายังคงจะหาเงินมาหมุนได้เรื่อยๆ และธุรกิจก็โตขึ้นเรื่อย ๆ ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าจะถือจริงๆ อาจมีอาการนอนไม่หลับได้นะครับ
ถ้าอดทนมองหุ้น dilute ลงไปมาก ๆ และกลับเข้าไปซื้อได้ ก็น่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว
Bonus: 
หนี้ของ True ส่วนมาเป็นเจ้าหนี้การค้าครับ เป็นหนี้ที่ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย กับหุ้นกู้ ซึ่งเสียดอกเบี้ยถูกกว่าเงินกู้ธนาคารค่อนข้างมาก (1-2% อย่างต่ำ)
ทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายไม่ได้เยอะไปกว่า Advanc และ Dtac นั้น (ล่าสุด Advanc พึ่งออกหุ้นกู้ไป 3หมื่นกว่าล้าน)
เพียงแต่เป็นหนี้ที่ต้องหมุนเงินอยู่ตลอดเวลา แล้วลูกหนี้การค้า (เงินรอเก็บจากลูกค้า) ก็เยอะในสัดส่วนที่มากกว่า Advanc และ Dtac ค่อนข้างมาก
ผมจึงขอให้ข้อสังเกตก็แล้วกันนะครับว่าให้มองสองอัตราส่วนนี้ดี ๆ ถ้าจะเข้าถือหุ้น

Bonus 2:
ราคาหุ้นขณะนี้ถือว่าสูงไปนะครับ เพราะมีข่าวจาก China Mobile เข้ามาซื้อหุ้น

Disclamer: ผมไม่มีหุ้น True และจะไม่เข้าถือภายใน 72 ชั่วโมง (และอีกนานจนกว่าราคาจะลง และหนี้ลดลงจนเหมาะสม 555)

อ้างอิง:
http://www.finmoment.com/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81-true-%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5/

http://pantip.com/topic/32499470


ID=2747,MSG=3477
Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

ถ้าทรูเพิ่มทุน ราคาหุ้นจะเป็นยังไง

ติดดอยทรูตั้งแต่ 10.30  ถ้าทรูเพิ่มทุน ราคาจะเป็นยังไงบ้าง อยากจะ cut loss แล้ว

คนที่เพิ่มทุนกับ true ทุกรอบ มาถึงวันนี้กำไรทุกคนครับ
คนที่เพิ่มทุน ตอนปี 2009 ราคา 1.95 ตอนนี้กำไร 320% ถ้าขายตอนที่ high สูงสุดกำไร 650%
คนที่เพิ่มทุน ตอนปี 2014 ราคา 6.45 ตอนนี้กำไร 30% ถ้าขายตอนที่ high สูงสุดกำไร 132%

จากข้อมูลในอดีตชี้ให้เห็นว่า การเพิ่มทุนกับ true และถือยาวไว้เฉยๆ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าการถือหุ้นระยะเวลาเท่ากันของบริษัทส่วนใหญ่ในตลาด และดีกว่าหุ้นที่อยู่ในกลุ่มสื่อสารด้วยกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน

แต่ข้อมูลในอดึตไม่สามารถรับประกันอนาคตได้ครับ เราต้องไปดู growth ของบริษัทอีกที
ซึ่งบริษัทเองก็มีแนวโน้มการเติบโตของรายได้ และส่วนแบ่งทางการตลาดที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าเจอหุ้นตัวอื่นในตลาดที่ดีกว่า ขาย true ทิ้งก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ
แต่ความเห็นส่วนตัวของผม ภายในเวลาไม่เกิน 3 ปี น่าจะได้เห็น true ที่ high เดิมอีกครั้งนึง

หุ้นที่เพิ่มทุนราคาจะลดลงทันที ณ.วันที่กำหนด ตามอัตราส่วนของการเพิ่มทุน (dilute)

ถ้าคุณถือหุ้นไว้จนถึงวันที่เพิ่มทุนโดยไม่ทำอะไร หุ้นตัวนี้ทั้งหมดของคุณราคาจะลดลงตามอัตราส่วนทันที พูดง่ายๆคือขาดทุนทันที ดังนั้นมีทางเลือกคือ
1. หาตังมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามอัตราส่วนที่กำหนด ถ้าได้ตังมาแล้วสามารถพิจารณาซื้อหลังเพิ่มทุนก็ได้ถ้าคิดว่าหุ้นคงลงอีกหลังเพิ่มทุน
2. ขายหุ้นตัวนี้ทิ้งไปก่อนแล้วค่อยพิจารณาว่าจะซื้อกลับหรือไม่ หลังเพิ่มทุน (ราคาอาจลดลงหรือเพิ่มขึ้นก็ได้หลังเพิ่มทุนแล้วแต่คุณภาพที่แท้จริงของบริษัท)
3. ขายหุ้นตัวนี้ไปบางส่วนก่อนเพิ่มทุน เพื่อเอาเงินไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามอัตราส่วนที่หุ้นคุณมีอยู่

ลองหาอ่านกระทู้เก่าๆที่อธิบายเรื่องเพิ่มทุนอย่างละเอียด มีตัวอย่างเป็นตัวเลขด้วย อย่าถือไว้นิ่งๆนะ ขาดทุนเห็นๆ
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเพิ่มทุนคุณน่าจะศึกษาประวัติหุ้นตัวนี้ก่อน ตัวนี้ประวัติเยอะมาก

เอาจริงๆทำไมทนถือตอนลงไป 5 บาทได้ละครับ ถ้าคิดว่ามันจะขึ้นต้องซื้อเพิ่ม ตอนนี้ก็อาจจะหลุดละ
แต่มันผ่านมาแล้ว ถ้าจะขายจริงๆก็รอก่อนเพิ่มทุน  9 บาทอาจจะได้เห็น 
ถ้าจะถือต่อก็ต้องมาดูว่าเพิ่มทุนคิดยังจะเป็นแบบไหน

==
เกล็ดความรู้ง่ายๆ ที่เม่ามือใหม่ต้องรู้ ทำไง ถ้าหุ้นที่เราถือ จะเพิ่มทุน
เห็น ตอนนี้  N-Park กำัลังจะเพิ่มทุนโดย ขี้น XR วันที่ 13 พ.ค.นี้ ขึ้น XR 
ให้สิทธิ์จองเพิ่มทุน 2:1 ในราคา 0.029 บาท

มีน้องมือใหม่ หลายคน ยังสับสน กับการเพิ่มทุน และ ยังคิดไม่อออกว่า จะทำอย่างไร

บางคน คิดว่าเพิ่มทุนต้องจ่ายเิงินเพิ่ม แล้วไม่มีเงินต้องขายทิ้ง(อันนี้ ยังไม่เท่าไร)

แต่อีกพวก นี่คิดว่า ถือต่อไปเฉยๆ โดยไม่เพิ่มทุนได้มั้ย คำตอบ คือ ได้ แต่มันเสียหาย เนื่องจากหุ้นมัน จะราคา Dilute ลงมา

ดังนั้น แม้จะเรื่องง่ายๆ ที่ คนส่วนใหญ่ที่เล่นหุ้นรู้กันอยู่แล้ว แต่ อยากเอามาบอกมือใหม่ กัน ตรงนี้อีกที
=================================================
ยกตัวอย่าง เคส N Park นี่เลยก็ ล่ะกัน

หุ้นจะเพิ่มทุน โดยให้สิทธิ์จองเพิ่มทุน 2:1 ในราคา 0.029 บาท
XR วันที่ 13 พ.ค.นี้ ขึ้น XR 

นั่นคือ ถ้าคุณมีอยู่ 2  หุ้นคุณจะได้สิทธิ์ซื้อเพิ่มทุนใหม่ได้ 1  หุ้นใน ราคา 0.029

ถ้าราคาแม่ ณ วันก่อนขึ้น XR ยังอยู่ตรงราคาวันนี้ คือ  17 สตางค์

วันขึ้้น XR (วันที่ 13 พค.) คนที่ซื้อหุ้นวันนั้น จะไม่ไ้ด้สิทธิ์จองหุ้นเพิ่มทุน ดังนั้นมูลค่าที่แท้จริงของมันที่ตลาดจะใช้เป็นราคา ฐาน คำนวน ซิลลิ่ง และฟลอร์ในวันนั้น  มันจะ  Dilute ลงมา เหลือตามต้นทุนรวมที่แท้จริง ประมาณ { (.17X2) + .029 } /3 เหลือ  ประมาณ .12-.13 สตางค์ ( ส่วนราคา ในกระดาน อาจจะสูงกว่า หรือต่ำกว่านี้ได้นิดหน่อย ได้แต่ไม่มากนัก)

ดังนั้นคนที่ถือหุ้นนี้ไว้  ณ วันนี้ ยังไม่ขึ้น XR ต้องคิดตัดสินใจ ว่าจะจัดการ อย่างไรกับมันดี

1 ถ้าคิดว่า การเพิ่มทุนไม่ดี ก็ควรต้องขายออกไปก่อน XR หรือขาย ณ ตอนนี้ ซึ่งยังได้ราคาสูง ประมาณ .17 บาท

2 ถ้าคิดว่า การเพิ่มทุนดี บริษัทยังมีอนาคต เพิ่มทุนแล้วน่าจะไปต่อ  ก็ถือต่อไป แล้วเตรียมเงินไว้จ่าย ค่าหุ้นเพิ่มทุน ด้วยเมื่อถึงกำหนดเพิ่มทุน

3 คิดเหมือนข้อสอง คือคิดว่าบริษัทยังดี น่าจะไปต่อได้  ไม่อยากขายทิ้ง  แต่ไม่มีเงินจะมาเพิ่มทุน หรือ มีแต่ไม่อยากจะใส่เงินเพิ่มเข้ามาักับหุ้นตัวนี้  เลยคิดว่าจะถือต่อไปเฉยๆ โดยไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนดีมั้ย

อันข้อ 3 นี่แหละคือ พวกที่ห่วง  และ ห้ามทำเด็ดขาด

เพราะว่า ถ้าถือไว้เฉยๆ  โดยไม่ขายออก ก่อน XR และไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนด้วย  พอวันขึ้น XR แล้ว ราคาหุ้นมันจะ Dilute ลงอย่างที่บอกไว้ข้างบน เราจะขาดทุนทันที ห้ามทำเด็ดขาด ต้องเลือก ทางเลือกที่ 1 หรือ 2 ข้างบน

แต่ถ้า ไม่เลือก ทั้ง 1 และ 2  ข้างบน แต่อยากถือต่อ แต่ไม่เติมเงินเพิ่มล่ะ ทำได้มั้ย

ตอบว่าทำได้ครับ  ทำโดยทางเลือกที่ 4

4 ถ้าอยากถือยาว แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าหุ้นเพิ่มทุน หรือ ไม่อยากเติมเงินเพิ่มเข้ามา กับหุ้นตัวนี้  ก็ขายแม่ออกมาบางส่วนให้พอ กับการเพิ่มทุน ก่อน XR แล้ว พอถึง เวลา ก็เอาไปเพิ่มทุนได้ครับ

เช่น ถ้าวันนี้ มี  N Park อยู่ 2,000,000 หุ้น

ต้องเพิ่มทุน 1 ล้านหุ้น ใช้เงิน 29,000 บาท 
เราก็ขายหุ้นออกมาก่อน XR  (หรือ ขายตอนนี้เลย ) ซัก 170,000 หุ้น (ถ้าราคา ยังอยู่ 17 ตังค์จะได้ 28900 บาท

หุ้นที่เหลือ 1,830,000  หุ้น ต้อง เพิ่มทุน 915,000 X .029 ใช้เงิน 26,500 บาท (เอาเงินที่ขายออกมานั่นเติมก็พอ เหลือ อีก 2400 บาท เอาไปฉลองมื้อเล็กกับครอบครัว ก็ได้ ยิ้ม )

ซึ่งสุดท้าย หลังการเพิ่มทุน คุณจะมีหุ้นในมือ 1,830,000 +915,000 รวม 2,745,000 หุ้น มากกว่าเดิม(แม้จะราคา dilute ลงมาก็ไม่เสียหาย ) เหมือนกับ การถือไว้เฉยๆ แต่ไม่เพิ่มทุน

ถ้าคิดมูลค่า สมมุติ ว่า ราคาลงมาเหลือ .13 มูลค่าในพอร์ตคุณ ก็ยังเป็น 2,745,000  X .13 = 356,850 บาท

แทนที่ถ้าถือไว้เฉยๆ มันจะเหลือแค่  .13 X 2 ล้าน = 260,000

จาก ที่ ก่อน XR ยังไม่ Dilute มันมีมูลค่า .17 X2 ล้าน = 340,000


ถ้าหุ้นเพิ่มทุน มันจัดสรร ในสัดส่วนที่สูง หรือ ราคาสูง ต้องใช้เิงินเพิ่มทุนมากก็อาจจะต้องขายหุ้นเดิมออกมามากลองคำนวนกันตามส่วนมันครับ


พวกที่จะเสียหายจากการเพิ่มทุนแล้ว ไม่ได้เพิ่ม แบบนี้ นอกจากคนที่เ้ข้าใจผิดแล้ว คนที่ซื้อหุ้นแล้วฝังลืม ไม่ค่อยได้ติดตาม ไม่เปิดจม.แจ้งข่าวจากโบรคเกอร์ ก็อาจจะทำให้พลาดข่าว และ เสียหายได้เหมือนกัน ลงทุนในหุ้นจึงต้องคอยตาม ดูด้วยเหมือนทำธุรกิจ

คงเห็นภาพ และได้ แนวทาง ในการแก้ปัญหา นะครับ

ขออภัยมือเก่าที่ เอาเรื่องพื้นๆมา เล่ากัน แต่คิดว่า กฏเกณฑ์ เล็กๆน้อยๆอย่างนี้ ทุกคน ต้องรู้ไว้ ครับ ไม่งั้นเล่นหุ้นขาดทุนตายหมด 
อันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเรืื่องที่ เม่ามือใหม่ต้องรู้ ถ้าเล่นหุ้น และไม่อยากให้ขาดทุนโดยอุบัติเหตุ

http://pantip.com/topic/30441522

http://upic.me/i/ww/o4j7t990xpjjfzzbrgi-o.gif
http://upic.me/i/qd/xs8v5.gif
http://upic.me/i/g7/ujoy6.gif

แล้วต้องทำไง
จะมีเอกสารส่งไปที่บ้านครับ อ่านแล้วก็ทำตามนั้น ว่าต้องทำยังไง จ่ายเงินยังไง
โดยอาจจะมีมาร์โทรแจ้งอีกที


ID=2747,MSG=3701
Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

การลงทุน กับ TRUE คือเน้น Growth ครับ
ไม่ต้องถึงกับเป็นเบอร์ 1 เป็นเบอร์สองก็มีกำไรแล้ว
ถ้ามี market share ซัก 30% สวยเลย กำไรจะยั่งยืนขึ้นมาก
ตัวเลขนี้คือเป้าหมายของผู้บริหาร ภายใน 3 ปี
แล้วหลังจากนั้นก็ต้องดุว่า true aggrssive ในการอยากเป็นเบอร์ 1 ขนาดไหน
ถ้าอยากมาก สงครามราคาก็จะดำเนินต่อไป กำไรก็น่าจะน้อยลง
แต่ถ้าอยากผ่อนลงหน่อย เนื่องจากมีภาระทางการเงิน ก็จะทำให้เกิดผลกำไร
แต่ถามความเห็นส่วนตัวผม ผมคิดว่า CEO เค้าต้องการเป็นอันดับหนึ่งครับ

อย่าลืมนะครับ ด้วยลูกค้า 19ล้านราย ณ ตอนนี้ true สามารถบริหารจนมีกำไรแล้ว
และการได้ คลื่น 900 มาในมือ แม้จะมีภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้นแต่ก็เป็นการเติมเต็ม และทำให้ true เป็นบริษัทที่มีเครือข่ายดีที่สุดในตลาด

ปีที่ผ่านมา true มี่รายได้เติบโต 17% ในขณะที่คู่แข่งอย่าง advanc โต 4% DTAC ติดลบ 3% แสดงให้เห็นถึงว่า true เป็นผู้บริษัทที่ growth โดดเด่นมาก
APRU เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 52%
หาลูกค้ารายเดือนได้เพิ่มคิดคิดเป็นส่วนแบ่ง 58% ของลูกค้าใหม่ทั้งตลาด

------------------------------------------------

แต่ถ้าถามผม ถ้าผมจะเล่น ผมจะเก็งกำไร true เท่านั้น เพราะภาพการเป็นเบอร์ 1 ยังไม่ชัดเจน อย่างน้อยต้องรออีก 6-9 เดือน คงจะเริ่มเห็นว่า การได้คลื่น 900 มาของ true กับการสูญเสียคลื่น 900 ของ advanc ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันมากขนาดไหน

ทางเลือก ไม่ได้มี 3 ทาง นะครับ ถ้ามองไม่ออก ก็ถือเงินสดไว้ หรือไปเล่นหุ้นกลุ่มอื่นก็ได้

โดยส่วนตัวในรอบ 3 ปีมานี้ หุ้นกลุ่มสื่อสาร ทำกำไรให้ผม มากที่สุด โดย dtac เป็นตัวที่ทำกำไรให้พอร์ทโดดเด่นที่สุด ( ผมเล่น dw put มาตลอดนะ ตั้งแต่ถาพของ dtac เริ่มชัด ) ส่วน ADVANC และ TRUE มีทั้งการ call และ put dw ตามสภาพกราฟทางเทคนิคใน ขณะนั้น


ID=2747,MSG=3702
Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

ถ้าเราไม่ทำการวิเคราะห์อุตสาหกรรมเลย แค่ดูตัวเลขเพียวๆ นะครับ
เราซื้อ ADVANC แน่นอน ปันผลดี เป็นเบอร์ 1
แต่ในความเป็นจริงของราคาหุ้นนะครับ

นับตั้งแต่กลางปี 2556 ถึงปัจจุบัน
ADVANC ลงมาจาก 300 เหลือ 170 ลดลงมา 43%
DTAC ลงมาจาก 130 เหลือ 40 ลดลงมา 70%
TRUE ลงมาจาก 10 เหลือ 8 ลดลงมา 20%

ถ้าเรามองตั้งแต่ ปลายปี 2555 ซึ่งเป็นเวลาที่ประมูล 3G คลื่น 2100
ADVANC ลงมาจาก 200 เหลือ 170 ลดลงมา 15%
DTAC ลงมาจาก 90 เหลือ 40 ลดลงมา 55%
TRUE ขึ้นมาจาก 5 เป็น 8 เพิ่มขึ้น 60%


ความเป็นจริงที่ตลาดเฉลยก็คือ หุ้นอย่าง True ที่หลายคนบอกว่าห่วย เจ๊งแน่ มีแต่หนี้ เพิ่มทุนทั้งปีทั้งชาติ
คือตัวเดียว สำหรับนักลงทุนที่ไม่เล่นรอบ เจ็บน้อยที่สุด หรือถ้าจังหวะที่ดี เป็นตัวเดียวที่กำไร 60% ในเวลาเพียง 3ปีเศษ
มันคือ Fund Flow ครับ ว่ากองทุนทั้งใน และต่างประเทศ เค้ามองอนาคตบริษัทต่างๆ ยังไง

True งบขาดทุนแล้วทำไมถึงขึ้นมาตลอด เพราะมันมี growth ไงครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ต้องเชื่อ กองทุน หรือ ต่างประเทศก็ได้ ถ้าเราวิเคราะห์ได้เก่งกว่าเค้า
เราอาจจะมองว่า Advanc รักษาอันดับหนึ่งได้อยู่แล้ว มีข้อได้เปรียบหลายอย่าง
อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญ และการมองแนวโน้มธุรกิจกลุ่มนี้

ตัวที่คนชมมาตลอด 3 ปี บริษัทอันดับหนึ่ง ศูนย์บริการดี เอาใจใส่ ทำให้คุณเงินหายไปครึ่งนึงได้
ตัวที่คนชมมาตลอดว่าบริการดี ทำให้เงินคุณ 100 บาท เหลือ 30 บาท
ตัวที่มีแต่คนด่า ว่าห่วย บริการแย่ มีแต่หนี้ แต่คุณกำไร 60%

สำหรับผมแล้ว การฟังคนอื่นพูด เลือกมองแต่ในสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น
โดยไม่มองความสามารถในการแข่งขัน ณ ปัจจุบัน เป็นสิ่งที่อันตรายต่อการลงทุนมาก
ถูกแล้วมีถูกอีก หุ้นบางตัว ลงมาจาก 120 บาท ตอน 90 บาท คนเชียร์มืดฟ้ามัวดิน ถูกมาก ปันผลเกือบ 10% ตอนนี้เงินต้นหายไป 70% รอปันผลอีกกี่ปีถึงจะคืนทุน และที่สำคัญ กำไรลดลงเรื่อยๆ ต่อไปจะปันผลมากขนาดนี้หรือไม่ หรือมีคำถามแม้กระทั่ง ต่อไปยังจะมีกำไรมาจ่ายปันผลรึเปล่า

แล้วอีกเรื่องที่คนชอบดูถูก true นะครับ ว่าเอาแต่เพิ่มทุน
ในรอบ 10กว่าปีมานี้ true เพิ่มทุนไป 3 ครั้ง
ใครที่กล้าใส่เงินเพิ่มให้ true แล้วถือมาตลอด ไม่เปลี่ยนใจ
จนถึงวันนี้ กำไรทุกคนนะครับ ไม่ใช่กำไรธรรมดา กำไรสูงด้วย
แต่แน่นอน บางคนก็คิดว่าเพิ่มทุนต้องใส่เงินเพิ่ม ไม่อยากใส่อะไรก็ว่ากันไป
แต่ความเป็นจริงก็คือ ผู้บริหาร true ขอเงินจากผู้ถือหุ้นเพิ่ม และเค้าสามารถเอาไปสร้างความเติบโตให้บริษัทได้จริง
ไม่ได้เหมือนกับบริษัทอื่นๆ เช่นบริษัทเดิมเรือบางบริษัท หรือหลายๆ บริษัทในตลาด mai ที่ยิ่งเพิ่มยิ่งเจ๊ง

แต่ผู้บริหาร true เค้าเอาเงินไปสร้างความเติบโตให้บริษัทจริงๆ และก็ตอบแทนด้วย ราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงพื้นฐานบริษัทก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มมากขึ้น รายได้เติบโตมากที่สุดในอุตสาหกรรม EBIT เพิ่มสูงขึ้นมากอย่างมีนัยยะ

ปี 2008 ตอนเพิ่มทุนหนักๆ 1.95 บาท ถือมาถึงตอนนี้ คงไม่ต้องพูดว่ากำไรกี่เท่าตัว ภายในเวลาแค่ 7 ปี
ตีเลขกลมๆ กำไรจากราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว ผลตอบแทนระดับนี้ ADVANC และ DTAC ให้ได้หรือไม่

ผมยังมองเหมือนเดิมนะครับ การจะเลือกธุรกิจและเลือกบริษัท เราต้องมองผู้บริหาร ว่าเค้าตั้งใจจริงหรือไม่ และทำได้จริงหรือไม่
สำหรับ true ผมคงไม่ต้องสรุปให้ฟัง เพราะมันบอกออกมาแล้ว ในตัวเลขงบการเงิน และราคาหุ้น
เค้ากล้าทุ่มเดิมพัน เพื่อก้าวเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม นี่คือวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร
บางบริษัทบอกจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาความเป็นนำ รักษากำไรไว้ให้ได้ แต่ถึงเวลาลงทุน ไม่กล้าทุ่ม
จนทำให้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันไป จากที่เคยได้เปรียบ ก็ทิ้งความได้เปรียบนั้นไป
บริษัทที่มีผู้บริหารแบบนี้ เราสามารถวางใจได้หรือไม่ เราเชือได้หรือไม่ว่าผู้บริหารตั้งใจจริง วิสัยทัศน์เค้าเป็นยังไง
แต่ไม่ใช่กับ True ที่ผู้บริหาร และเจ้าของใหญ่ พร้อมจะเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นต่อไป เพื่อก้าวเป็นผู้นำในธุรกิจ

ใครจะด่ายังไงด่าไปครับ แต่ตัวเลขที่ดีขึ้น กับราคาหุ้น ไม่เคยหลอกใคร


ID=2747,MSG=3703
Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

ถ้าคิดตามที่บอกตั้งแต่ปี 2008 Advance ราคา 70-80 ตอนนี้ราคา 160 กว่าๆ
รวมๆกับปันผลทุกปีที่ผ่านมา 50-60 บาท ก็เกิน 3 เท่าแล้วครับถ้าเอาปันผลไปซื้อหุ้นเพิ่มตลอด คงได้เพิ่มอีก
ไม่ต้องลงเงินเพิ่มซักบาท คิดละเอียดๆไง advance ก็ให้ผลกำไรดีกว่าจากที่ผ่านมานะครับผมว่า
แล้วปีต่อๆจากนี้ก็คงจ่ายปันผลตลอดพร้อมราคาที่ยังสูงไปอีก
ถ้าคิดว่าทุน 80 ปันผลก็ 15%ต่อปี ไม่ต้องลงเงินเพิ่ม อีก 2-3 ปีปันผลก็เท่าเงินลงทุนแล้ว
ส่วนทุยก็เล่นตามรอบ กินส่วนต่างไป

แต่พื้นฐานมันเปลี่ยนเพราะค่าประมูลสูงขึ้นและอาจจะมีคู่แข่งเข้ามา กำไรก็อาจจะไม่เหมือนเดิมแล้ว
ดังนั้นจะเอาอดีตมาคาดการณ์อนาคตก็คงต้องใส่ตัวแปรต่างๆเข้าไปอีก

อันนี้ผมเทียบกับความเห็นข้างบนที่คิดว่าซื้อหุ้นทรูในปี 2008 ได้ผลกำไร 3 เท่าถ้าเพิ่มทุนทุกครั้ง กับ AIS เท่านั้นครับ
ส่วนอนาคตมันมีตัวแปรเยอะ ไม่มีใครรู้ต้องค่อยตามแล้วดูแลตัวเองนะครับ หุ้นกลุ่มนี้อะไรมันเปลี่ยนเร็วไม่ทันเกมก็จบเอาง่ายๆครับ


ID=2747,MSG=3704
Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

True ประกาศขายหุ้นเพิ่มทุน 6 หมื่นล้านบาท ชำระหนี้เก่า-ลงทุนธุรกิจมือถือเพิ่ม

คณะกรรมการบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น เสนอเพิ่มทุนอีก 6 หมื่นล้านบาท โดยจะออกหุ้นสามัญใหม่ 1.5 หมื่นล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 4 บาท เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ข้อเสนอนี้จะต้องผ่านการลงมติของผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญ วันที่ 8 เมษายน 2559
ทรูระบุว่าต้องการเพิ่มทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้สถานะการเงินของบริษัท และขยายการเติบโตทางธุรกิจ เงินที่ได้มาจะนำไปชำระเงินกู้จากสถาบันการเงินรวมมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท และนำไปลงทุนในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่อีก 2 หมื่นล้านบาท บริษัทคาดว่าการมีโครงสร้างการเงินที่เข้มแข็งขึ้น จะส่งผลดีต่อมูลค่าหุ้นของบริษัทในอนาคต
การเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ทุนจดทะเบียนของทรู เพิ่มจาก 98.4 พันล้านบาท เป็น 158.4 พันล้านบาท

http://true.listedcompany.com/newsroom/010220160852230728T.pdf
http://www.set.or.th/set/newsdetails.do?newsId=14542835446211&language=th&country=TH

http://upic.me/i/hd/t1gwnve.png

การทำแบบนี้ส่งผลกระทบต่อคนที่ถือหุ้นอยู่แล้วยังไงเหรอครับ

เพิ่มทุน/เพิ่มปริมาณหุ้น=ขายหุ้นใหม่หาเงินเข้าบริษัท เป็นวิธีการหนึ่งถ้าบริษัทต้องการเงินไปใช้แต่ไม่อยากกู้ธนาคารเพิ่ม ข้อเสีย คือ ถ้าหุ้นดังกล่าวให้ผลตอบแทน เช่น หากบริษัทมีกำไรแล้วต้องการจ่ายเงินปันผล ผู้ถือหุ้นก็จะได้ปันผลน้อยลง เนื่องจากโดนเฉลี่ยด้วยจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น
การเพิ่มทุนไม่ได้มีแต่ข้อเสีย แล้วแต่กรณี ต้องดูด้วยว่าเพิ่มทุน ลงทุนเพิ่มแล้วส่งผลให้บริษัทมีการเติบโตเพิ่มหรือเปล่า อยู่ที่วิจารณญาณของนักลงทุน

เพิ่มทุนคือเพิ่มคนแชร์ส่วนแบ่ง แต่กรณีนี้เพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม ถ้าทุกคนยอมจ่ายตังค์เพิ่มทุกคนก็ยังมีส่วนแบ่งเท่าเดิม แต่ถ้าใครไม่ยอมจ่ายเงินเพิ่มส่วนแบ่งในบริษัทนั้นจะลดลง ที่ไม่ดีคือ การเพิ่มทุนถ้าทำให้รายรับเพิ่ม มันก็ยังโอเค แต่ถ้าไม่ได้ช่วยให้รายได้เพิ่มขึ้น มันเหมือนรายได้เท่าเดิม แต่คนหารเยอะขึ้น หรือถ้าเพิ่มทุนตามก็เหมือนเราต้องลงทุนเพิ่มโดยที่รายได้เท่าเดิม

อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

สำหรับผู้ถือหุ้น
ถ้าเพิ่มทุน ราคาไหม่เป็นค่าเฉลี่ยของราคาเก่ากับราคาเพิ่มทุน เสียเงิน + ขาดทุน แต่ได้หุ้นเยอะขึ้น แต่% เท่าเดิม
ไม่เพิ่มทุน ขาดทุน เนื่องจากราคาจะกลับไปตำ่กว่าราคา จำนวนหุ้นเท่าเดิม %น้อยลง


ID=2747,MSG=3705
Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

ผมคาดคะเนคร่าวๆ

(๑) 1,500,000,000 true ราคาหุ้นใหม่ใช้ "90% เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักซื้อขาย 3 - 30/3/2559" จะประกาศ 31/3/2559
      สิ้นสุด 28/3/2559 ตามคำนวนผม

http://upic.me/i/ue/o4sc9rnvzwhymj2i4ac-o.png

(๒) จะขออนุมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น มีวาระ
      ก. จ่ายปันผลเป็นหุ้น 200 true : 3 true
      ข. จ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.00667 บาท ต่อ 1 true รองรับจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่าย
      ค. เพิ่มทุนโดยออก tsr อัตราส่วน 1 true : ประมาณ 0.60955 tsr อัตราใช้สิทธิ 1 tsr : 1 true ราคาใช้สิทธิ "จะประกาศ 31/3/2559" อายุไม่เกิน
          2 เดือน
      ง. ขึ้นเครื่องหมาย xa 19/4/2559
(๓) หลังได้รับอนุมติจากประชุมผู้ถือหุ้น  น่าจะออก tsr ให้ผุ้ถือหุ้นปลายเดือน เมษายน 2559 แล้วซื้อขายในกระดานต้นเดือน พฤษภาคม
    2559 จนถึงกลางเดือน มิถุนายน 2559
(๔) tsr จะหยุดซื้อขายเพือนำไปใช้สิทธิซื้อหุ้นใหม่ 2 อาทิตย์สุดท้ายก่อนหมดอายุ
(๕) ถ้าเป็นไปตามข้างบน true หุ้นใหม่ น่าจะเข้ามาซื้อขายได้อย่างเร็วกลางเดือน กรกฎาคม 2559


ID=2747,MSG=3706
Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

http://www.doohoon.com/smf/index.php?topic=14290.0


ID=2747,MSG=3707
Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

Re: เจาะลึก TRUE หุ้นแสนล้าน (หนี้)!

ตอนทรูร่วงจาก 15 ผู้บริหารขาย
ให้เราสังเกตุ เมื่อไร ผู้บริหารขายให้ขายตาม

http://upic.me/i/a5/y22ww.jpg


ID=2747,MSG=3708


⭐️ เราให้คำแนะนำปรึกษา รักษาผลประโยชน์ให้ลูกค้า ของเรา
⭐️ เราอยู่เคียงข้างลูกค้าของเรา ช่วยเหลือ ดูแลบริการ
⭐️ เรารองรับช่องทางติดต่อมากมาย สะดวก เข้าถึงง่าย
⭐️ เราดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า20 ปี คุณจึงมั่นใจได้
⭐️ คุณมีสามารถรับบริการทั้งจากบริษัทประกันเจ้าของสินค้า และ เรา (ตัวกลาง)

ไทย มีราว 80 บริษัทประกันภัย สินค้าที่แตกต่าง ทั้ง เงื่อนไข ราคา เคลม ความมั่นคง นโยบาย ฯลฯ
ขายผ่านตัวกลาง กว่า 500,000 ราย : ตัวแทน นายหน้า ธนาคาร บิ๊กซี โลตัส ค่ายรถยนต์ เฮ้าส์แบรนด์ ของประกันภัย หรือ ซื้อตรงกับบริษัทเจ้าของสินค้า
⭐️ ตัวอย่าง การบริการ กดดูที่ลิงค์นี้

"สิ่งที่ต้องคำนึงอันดับแรกในการซื้อประกัน คือ ตัวกลางประกันภัย ซึ่งจะเป็นที่ปรึกษา ช่วยเหลือ ดูแลเรา ตลอดอายุกรมธรรม์"

โปรดรอ

display:inline-block; position:relative;
โทร.(จ-ศ : 9-16) เว้นวันหยุดฯ , ลูกค้าเรา บริการ 24/7/365 , Thursday เวลา 12:45:04pm เที่ยง ปิดทำการ
Copyright © 2018 Cymiz.com., All rights reserved.นโยบาย,ข้อตกลงcymiz.com