พัฒนาการสมอง

พัฒนาการสมอง

สมองกันสักหน่อยก่อนมั้ย?
1.พัฒนาจำนวนเซลล์สมองได้สูงสุดแค่0-2ขวบ-1000วันแรกนับแต่ปฏสนธิ-ก็คือสร้างจำนวนหน่วยความจำขึ้นมานั่นเอง กระตุ้นเค้าตั้งอยู่ในท้อง จนถึง2ขวบ กระตุ้นได้ด้วย อาหาร นมแม่ และตามขั้นตอนของหนังสือพัฒนาการเด็ก-หามาอ่านดูน่ะครับ-
2.พํฒนาสิ่งที่สำคัญที่สุด สำคัญมากกว่าจำนวนเซลล์สมอง เราเรียกมันว่า  synapse หรือการเชื่อมโยงประสาท ยิ่งเราทำให้เซลล์ประสาทเชื่อมโยงกันมากเท่าไหร่ สมองก้อจะยิ่งไหลลื่นมากเท่านั้น เหมือนมีสมองเพิ่มขึ้นเป็น100เท่า แล้วsynapseสร้างขึ้นได้ยังไง มันจะสร้างช่วง2-5ขวบ สร้างจากขบวนการคิดของเด็ก แล้วเด็กคิดอะไร เด็กคิดอยู่เรื่องเดียวครับคือ เล่น ยิ่งของที่เค้าเล่นมีลักษณะ free form เปลี่ยนแปลงได้หลายลักษณะมันจะยิ่งแตกsynapseออกมากมาย เช่น ทราย น้ำ แป้งโดจ์ สี บล็อค เลโก้ ฯลฯ  แล้วถ้าเด็กถูกปิดกั้นจินตนาการล่ะ synape ก้อจะสร้างน้อยลง ดั้งนั้น รร.ที่เน้น การเร่ง เขียน อ่าน จับมือหัดเขียน เขียนอ่านตามครู หัดบวกลบเลข ก่อน5ขวบ เป็นการทำตามอย่าง ไม่ใช่เล่นตามจินตนาการ เด็กเหล่านี้จึงมีsynapseน้อย และถูกเร่งใช้จำนวนเซลล์สมองโดยไม่จำเป็น จึงตื้อตอนปลาย ตอนนี้พอจะเข้าใจมั้ยครับ ว่าเร่งตั้งแต่อนุบาล เพื่อหวังจะสอบเข้า ป.1รร.ดังๆ เป็นการทำลายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ synapse ลองดู100อันดับรร.มัธยมที่ดีที่สุดประกอบก็จะพอมองเห็นภาพตอนจบได้น่ะครับ
3.synapse ว่าสำคัญที่สุดแล้วยังมีสิ่งที่สำคัญกว่าอีกครับ
3.1สมาธิ สร้างในวัย0-3เด็กที่ขาดสมาธิจะทำสิ่งใดๆเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้เลยน่ะครับ เรียนหนังสือก็เรียนไม่ได้ เพราะจะวิ่งเล่นอย่างเดียว สมาธิจะพํฒนาโดยการให้เด็กมีใจจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานานๆเช่น ฟังแม่อ่านนิทานให้ฟัง ฟังเพลง ต่อเลโก้ แต่ศัตรูตัวร้ายที่จะทำให้สมาธิเด็กถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง คือสื่ออิเลคโทรนิกส์ เช่นทีวี คอมป์ เทปเลท ห้ามเด็ดขาดก่อน3ขวบน่ะครับ ชิวิตเด็กจะพังยับเยินเลยทีเดียว

ในวัย0-2ขวบ สมองกำลังพัฒนาขึ้นทุกส่วน 2-5สร้างทางเชื่อมโยงเซลล์ประสาท(synapse) แต่เราจะลืมตัวเอกอีกตัวไม่ได้เลย มันคือ สารสื่อประสาท(neurotransmitters)ที่ทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นในการขนส่งข้อมูลของสมอง แบ่งง่ายๆเป็น4กลุ่ม
a-กลุ่มกระตุ้นให้การสื่อประสาทไหลลื่นต่อเนื่องด้วยดีและทำให้ใจมีความสุข สงบ มีสมาธิ เกิดเมื่อ คิด เล่น อย่างมีความสุข ได้รับคำชม กอด หอม ไม่ถูกด่า ตวาด ตำหนิ แกล้ง ไม่ถูกตี ไม่เร่งเด็กเรียนวิชาการในระดับอนุบาล
b-กลุ่มยับยั้งชะลอการสื่อประสาทไม่ให้เกิดขึ้น เกิดเมื่ออยู่ในอารมณ์ซึมเศร้า หดหู่ เช่นเด็กที่โดนดุ ด่า ตี ทำร้ายบ่อยๆ คิดว่าพ่อแม่ไม่รักหรือไม่มีเวลาให้ ครอบครัวไม่อบอุ่น
c-กลุ่มรบกวนการสื่อประสาทให้กระโดดไปกระโดดมาวุ่นวาย เกิดเมื่อเด็กอยู่ในสภาวะที่เด็กได้รับข้อมูลมากมายและมีการเคลื่อนไหวอย่าวรวดเร็ว เช่น  เล่นเกมส์ เล่นคอมป์ เทบเลทเยอะๆ ดูทีวีมากๆ
d-กลุ่มที่ทำให้เกิดการลัดวงจร เกิดเมื่อร่างกายเครียด กังวล กลัว ตกใจ เกิดในเด็กที่ครอบครัวตั้งความหวังกับเด็กมากเกินไป เรียนมากไป เด็กทนทำอะไรที่ไม่ชอบนานเกินไปจนเกิดความคับข้องใจ
ถ้าอยากให้เด็กมีสารสื่อประสาทกลุ่มa-เยอะๆ เล่นให้มาก กอด หอม เค้าทุกวัน ให้เค้าพบเห็นสิ่งแปลกๆใหม่ๆทุกๆวัน ฟังเพลง เล่นดนตรี เล่นกีฬา เล่านิทาน ให้เจอสื่ออิเลคโทรนิกส์น้อยที่สุด
ถ้าอยากให้เด็กมีสารสื่อประสาทกลุ่มb-เยอะๆ พ่อแม่ก็ทำงานหาเงินเยอะๆจนเหลือเวลาเล่นกับลูกน้อยๆ อารมณ์เสียเมื่ออยู่กัยลูก ด่า ตี ลูกบ่อยๆ ชอบตำหนิลูกต่อหน้าคนอื่น ชอบพูดทำลายจินตนาการหรือเรื่องคาดหวังต่างๆของเด็กให้พังลงไป
ถ้าอยากให้เด็กมีสารสื่อประสาทกลุ่มc-เยอะๆ  ให้เล่นเกมส์ คอมป์เทบเลท และดูทีวีมากๆ
เมื่อเด็กพ้น 5 ขวบไปแล้วสารสื่อประสาทกลุ่มไหนเยอะ จะเป็นตัว set programe ในสมองและกำหนดอุปนิสัยเด็กขึ้นมา
-ถ้ามีaเยอะก็เป็นคนอารมณ์ดี ร่าเริง คล่องแคล่ว และจะค่อยๆเรียนเก่งขึ้น แต่ตอนป.1-4จะไม่ค่อยเก่งน่ะ เพราะยังไม่ทันเพื่อนที่ใช้เซลล์สมองอัดข้อมูลจำนวนมากจากรร.อนุบาลวิชาการมาล่วงหน้าแล้ว ประมาณสักป.5-6เมื่อเนื้อหาแปลกใหม่ขึ้นเยอะ จะเริ่มเด่นแล้วแซงหน้าเพื่อนๆด้วยจำนวนเซลล์สมองว่างๆที่มีเหลือเฟื้อ บวกกับsynapseและneurotransmitter-a-ที่สร้างไว้อย่างล้นเหลือ
-ถ้ามีbเยอะก็เป็นเด็กเก็บตัว ไม่มั่นใจ และไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีความภูมิใจในตัวเอง
-ถ้ามีcเยอะก็เป็นเด็กกลุ่มที่โชคร้ายที่สุด คือ มีความบกพร่องในการเรียนรู้และสื่อสาร เช่น ld autistic สมาธิสั้น(วันหลังจะพูดให้ฟัง)
-ถ้ามีdเยอะ ก็จะเป็นเด็กที่ขี้กังวล ไม่ร่าเริง การเรียนจะเรียนดีในช่วงแรก แต๋จะตกลงประมาณป.5-6 เมื่อเซลล์ความจำที่ว่างเหลือน้อยลง และsynapse@neurotrasmitter-a-มีน้อยไป แต่มีข้อยกเว้นครับ ถ้า1-มีIQสูงอยู่แล้วรับข้อมูลได้ไม่จำกัด 2-ได้neurotranmitter-a-จากครอบครัวที่อบอุ่น  3-ทำข้อสอบคะแนนดีได้จากาารติว(ไม่ได้จากความเข้าใจของตัวเอง)
ที่พูดมาทั้งหมด เป็นเพียงส่วนเสี้ยวเล็กๆที่เรากำลังจะสร้างเด็กสักคนขึ้นมา ตัวอย่างทั้งดีและเลวมีอยู่รอบๆตัวเราเต็มไปหมด อยากให้ลองสังเกตูดู หนังสือและข้อมูลในinternetมีมหาศาล คอร์สอบรมให้ความรู้พ่อแม่ก็มีมากมาย ก่อนจากลา อยากให้ลองอ่าน กว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว นี่คือหนังสือมี่จุดประกายผมที่เริ่มศึกษาวิธีเลี้ยงลูกครับ-/หมอเชียงใหม่-

http://pantip.com/topic/31666311


ID=2632,MSG=3203


⭐️ เราให้คำแนะนำปรึกษา รักษาผลประโยชน์ให้ลูกค้า ของเรา
⭐️ เราอยู่เคียงข้างลูกค้าของเรา ช่วยเหลือ ดูแลบริการ
⭐️ เรารองรับช่องทางติดต่อมากมาย สะดวก เข้าถึงง่าย
⭐️ เราดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า20 ปี คุณจึงมั่นใจได้
⭐️ คุณมีสามารถรับบริการทั้งจากบริษัทประกันเจ้าของสินค้า และ เรา (ตัวกลาง)

ไทย มีราว 80 บริษัทประกันภัย สินค้าที่แตกต่าง ทั้ง เงื่อนไข ราคา เคลม ความมั่นคง นโยบาย ฯลฯ
ขายผ่านตัวกลาง กว่า 500,000 ราย : ตัวแทน นายหน้า ธนาคาร บิ๊กซี โลตัส ค่ายรถยนต์ เฮ้าส์แบรนด์ ของประกันภัย หรือ ซื้อตรงกับบริษัทเจ้าของสินค้า
⭐️ ตัวอย่าง การบริการ กดดูที่ลิงค์นี้

"สิ่งที่ต้องคำนึงอันดับแรกในการซื้อประกัน คือ ตัวกลางประกันภัย ซึ่งจะเป็นที่ปรึกษา ช่วยเหลือ ดูแลเรา ตลอดอายุกรมธรรม์"

โปรดรอ

display:inline-block; position:relative;
โทร.(จ-ศ : 9-16) เว้นวันหยุดฯ , ลูกค้าเรา บริการ 24/7/365 , Tuesday เวลา 07:54:29pm (ลูกค้าเราติดต่อทางไลน์พิเศษที่ให้ไว้ตอนซื้อประกัน😍)
Copyright © 2018 Cymiz.com., All rights reserved.นโยบาย,ข้อตกลงcymiz.com