ลี กาชิง พญามังกรอับดับ1แห่งเอเชีย จากศูนย์สู่แสนล้าน

ลี กาชิง พญามังกรอับดับ1แห่งเอเชีย จากศูนย์สู่แสนล้าน

ลี กาชิง พญามังกรอับดับ1แห่งเอเชีย จากศูนย์สู่แสนล้าน

ลี กาชิง มหาเศรษฐีวัย 85ปี ประธานบริษัท Hutchison Whampoa ถูกจัดอันดับจาก Forbes ให้เป็นบุคคนที่รวยที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นบุคคลที่รวยเป็นอันดับ 8ของโลก (March 2013)



เขาไม่ได้เกิดมารวย ครอบครัวของเขาเป็นชาวซัวเถา ในวัยเด็กเนื่องจากเกิดสงครามเอเชียมหาบูรพาทางใต้ของจีนครอบครัวเขาจึงอพยพมาทำงานที่ฮ่องกง เขาได้เรียนหนังสือเพียงแค่ชั้นม.ต้น แต่ด้วยความใฝ่รู้เขาจึงหาหนังสือมาอ่านเองจนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้

ความใฝ่ฝันของเขาเคยคิดอยากเป็นหมอ เนื่องจากตอนอายุ 13 ปีพ่อเขาป่วยหนักด้วยวัณโรคไม่เงินรักษา เขาได้พยายามหาตำราแพทย์มาอ่านเพื่อรักษาพ่อแต่ก็ช่วยไว้ไม่ได้ เขาสัญญากับพ่อก่อนสิ้นลมว่า “ครอบครัวของเขาจะต้องมีชีวิตที่ดีตลอดกาลนาน”

ลี กาชิง เริ่มต้นการทำงานโดยเป็นเซลส์ขายผลิตภัณฑ์จากพลาสติก จนเมื่อเขาอายุได้ 17 ปี ก็ได้เป็นเจ้าของโรงงานพลาสติกในนาม Cheung Kong หลังจากที่ธุรกิจพลาสติกประสบความสำเร็จ เขามุ่งสู่ธุรกิจ Real Estate และ ท่าเรือ ซึ่งทั้ง2 ธุรกิจของเขาก็ขึ้นเป็นอับดับ 1 ของฮ่องกง ลี กาชิงก้าวสู่การลงทุนธุรกิจในต่างประเทศกว่า 24 ประเทศ ทั้งธุรกิจ ดอกไม้พลาสติก Real Estate ท่าเรือ และธุรกิจน้ำมัน

ความสุดยอดของมหาเศรษฐีผู้นี้คือ “ความกตัญญู” เขาไม่ลืมแผ่นดินบ้านเกิดเมืองซัวเถา โดยบริจาคเงินพัฒนาเมืองนี้หลายด้านเช่น สร้างมหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล

“การสะสมเงินช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น และ ลงทุนในช่วงเศรษฐกิจขาลง โดยยึด 3 สิ่ง คือ จังหวะเวลา ความเร็ว และ ข้อตกลงที่ดี” คือ เคล็ดลับที่ทำให้พญามังกรลี กาชิงผู้นี้ประสบความสำเร็จได้

==
ลีกาชิง...มังกรแห่งเกาะฮ่องกง

หลังจากที่หายไปหนึ่งอาทิตย์เพื่อจะไปสืบหาข้อมูลมานั่งเขียน Entry พอดีไปเดินดู DVD ที่ร้านในเมืองเซี่ยงไฮ้ ไปเจอ DVD บทสัมภาษณ์ของ ลีกาชิง และ ลีกวนยู เลยตกลงซื้อมาดู ประกอบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน มีประกาศของนิตยสาร Forbes จัดอันดับคนรวยที่สุดในโลกของปี 2008 นี้ ซึ่ง ลีกาชิง ปีนี้ติดอันดับที่ 11 มีสินทรัพย์อยู่ถึง 26,000 ล้าน USD เป็นคนจีนที่รวยอันดับ 1 ในบรรดาคนจีนทั่วโลก

http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/88/2088/images/Generl/Lijiacheng/2006821138401411798.jpg

ลีกาชิง Li Kashing หรือ ในชื่อภาษาจีนว่า ลีเจียเฉิง (李嘉诚) ไม่ได้เกิดมารวยโดยกำเนิด ครอบครัวของเขาเป็นชาวซัวเถา หรือ ที่เรารู้จักกัน คือ คนแต้จิ๋ว ในวัยเด็ก เนื่องจากสมัยนั้นญี่ปุ่นเปิดฉากโจมตีประเทศจีน ในสงครามเอเชียมหาบูรพาในปี 1938 และทางใต้ของประเทศจีนเกิดความขัดสนและขาดแคลน เพื่อพยุงฐานะทางครอบครัวพ่อของเขาจึงหอบหิ้วเขามาหางานทำที่ฮ่องกง เช่นเดียวกับคนจีนหลายๆคนที่อพยพมาอยู่ประเทศไทย ในวัยเด็กเขาจึงเรียนหนังสือได้แค่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น  แต่ด้วยความใฝ่ฝันในการศึกษา เขาจึงหาหนังสือมาอ่านเอง จนกระทั่งครั้งหนึ่งเขาอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้พ่อเขาฟัง และบอกพ่อของเขาว่า ภาษาอังกฤษไม่ยากเลย พ่อเขาถึงอึ้งและสลด เพราะรู้ว่า ลูกชายใส่ใจในการศึกษา แต่ตัวเองไม่มีปัญญาส่งเสีย

ความใฝ่ฝันของเขาเคยคิดอยากเป็นหมอ เนื่องจากตอนอายุ 13 ปีตอนที่พ่อเขาจะเสียด้วยโรควัณโรค เขาพยายามหาตำราทางแพทย์มาศึกษาเพื่อรักษาพ่อของเขา  ก่อนที่พ่อเขาจะจากไป แทนที่พ่อของเขาจะสั่งเสียเขากลับถามว่าเขามีอะไรจะบอกพ่อของเขา เขาบอกพ่อเขาว่า “ครอบครัวของเขาจะต้องมีชีวิตที่ดีตลอดกาลนาน”

เขาเริ่มต้นการทำงานโดยเป็น Salesman ขายผลิตภัณฑ์จากพลาสติก จนเมื่อเขาอายุได้ 17 ปี เขาจึงเริ่มต้นธุรกิจของเขาโดยเป็นเจ้าของโรงงานพลาสติก ในปี 1956 ในนาม บริษัท Cheung Kong

http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/88/2088/images/Generl/Lijiacheng/2006821135201811798.jpg
หลังจากที่ธุรกิจพลาสติกประสพความสำเร็จ ในปี 1967 เขามุ่งสู่ธุรกิจ Real Estate ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นที่ทำเงินให้เขาอย่างมหาศาล ในปี 1977 บริษัท Real Estate ของเขาก็พิชิต บริษัท Real Estate อันดับ 1 ของฮ่องกงที่ชื่อว่า Hongkong Land ซึ่งเป็นบริษัทของคนอังกฤษได้สำเร็จ

หลังจากนั้นเขาจึงมุ่งสู่ธุรกิจการบริหารท่าเรือ โดยในปี 1984 เขาสามารถชนะประมูลการบริหารท่าเรือ Terminal 6 ซึ่งใหญ่ที่สุดในเกาะฮ่องกงเป็นผลสำเร็จ และยังมีท่าเรืออื่นๆในเกาะฮ่องกงที่บริษัทเขาบริหารอยู่แล้ว 3-4 แห่ง

ปี 1990 เขามุ่งสู่การลงทุนในต่างประเทศ ในธุรกิจ Real Estate เขาลงทุน take over บริษัท Hutchison เพื่อเป็น Brand ใช้ต่อสู้กับบริษัทต่างประเทศ กลายมาเป็นบริษัท Hutchison Wonbao ที่ชาวฮ่องกงและชาวจีนรู้จักกันดี

ปี 1991 เขาชนะการประมูลซื้อ ท่าเรือ Felixstowe ในประเทศอังกฤษ มาบริหาร Container Terminal และยังมีประเทศต่างๆในยุโรป ไม่ว่า เยอรมัน หรือ ฮอลแลนด์ ชักชวนให้เขาไปลงทุนในการบริหารธุรกิจท่าเรือ

ปี 1994 เขาเข้าไปลงทุนธุรกิจน้ำมันในประเทศคานาดา ในชื่อบริษัท Husky Oil เพื่อส่งขายให้กับตอนเหนือของประเทศอเมริกา

ธุรกิจของเขาที่ทำกำไรและส่งเสริมฐานะของเขามาจากการลงทุนในประเทศต่างๆ 24 กว่าประเทศ

http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/88/2088/images/Generl/Lijiacheng/2006821135541341798.jpg

เคล็ดลับที่ทำให้เขาประสพความสำร็จ คือ การสะสมเงินในช่วงที่เศรษฐกิจขาขึ้น และลงทุนในช่วงเศรษฐกิจขาลงในช่วงที่ราบเรียบ มีปัจจัยสำคัญ 3 ข้อที่ทำให้เขาประสพความสำเร็จ คือ Timing Speed และ Good Deal

ในช่วงที่เขาทำธุรกิจดอกไม้พลาสติกในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ มีพ่อค้าชาวอเมริกาได้รับการแนะนำจากพ่อค้าชาวฮ่องกงให้มาซื้อสินค้าจากบริษัทของเขา โดยรับรองความประพฤติของเขาที่มีความรับผิดชอบต่องานและซื่อสัตย์ พ่อค้าชาวอเมริกาได้สั่งของจากบริษัทเขา ซึ่งเวลาส่งจะบรรจุดอกไม้พลาสติกลงไป 100 ดอกต่อกล่อง แต่เขากลับให้ลูกน้องบรรจุเพิ่มเข้าไปอีกดอก

เมื่อพ่อค้าชาวอเมริกาได้รับและตรวจสอบสินค้า เขาทำหนังสือแย้งมาว่า เขาใส่ดอกไม้เกินมา 1 ดอกทุกกล่องสินค้า ลีกาชิงทำจดหมายตอบไปว่า ที่เขาบรรจุดอกไม้เพิ่มเติมไปเพราะกลัวว่า ข้อหนึ่ง ลูกน้องของเขาอาจนับพลาด ข้อสอง กลัวว่า สินค้าจะเสียหายระหว่างการขนส่ง ดังนั้นเขาจึงส่งดอกไม้ไปให้อีก 1 ดอก เพื่อสำรองไว้ถ้าเกิดความเสียหาย พ่อค้าของเขาเลยเป็นคู่ค้าเขานับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และสั่งสินค้าคราวหนึ่งครอบคลุมไปถึง 6 เดือน

หลังจากเขาประสพความสำเร็จในธุรกิจ เขาไม่ลืมแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนของเขาโดยเฉพาะเมือง ซัวเถา หรือที่ภาษาจีนกลางเรียกว่า Shantou เขาเข้าไปพัฒนาเมืองนี้โดยการสร้างมหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล Shantou เนื่องจากการใฝ่ใจในการศึกษาตั้งแต่เด็ก และความที่สมัยเด็กๆเขาอยากจะเป็นหมอ

มีเรื่องกล่าวขานกันว่า ครึ่งหนึ่งของเงินบริจาคเมือง Shantou ในเบื้องต้นก่อนที่จะพัฒนามาถึงทุกวันนี้ได้มาจากเงินบริจาคของ ลีกาชิง และอีกครึ่งหนึ่งของเงินบริจาคคงจะเดากันได้ มาจากคุณ ธานินทร์ เจียวรานนท์ ของบรัษัท CP เพราะคนแต้จิ๋วส่วนใหญ่ที่ออกไปอยู่ต่างประเทศอยู่ในประเทศไทยมากที่สุด

http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/88/2088/images/Generl/Lijiacheng/20068211218291381798.jpg

ที่อยากเขียนเรื่องนี้เพราะอยากให้ไปศึกษา เราชาวเอเชียก็มี Good Governor และ Transparency เช่นกันในแบบเอเชีย ที่เราต้องการคือการทำงานเป็น Team work และ มี System ไม่งั้นบริษัทเหล่านี้คงไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทต่างชาติจากตะวันตกได้เลย และเราก็มีวิธีตอบแทนคืนสู่สังคมในแบบเอเชีย โดยไม่ต้องไปตั้งมูลนิธิเรียนแบบชาวตะวันตก เพราะเศรษฐีชาวตะวันตกที่ตั้งมูลนิธิบางคนเนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงกฎหมายมรดก ซึ่งแรงมากในประเทศของเขา ไม่สามารถส่งต่อทรัพย์สินสมบัติไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานของเขาได้
แล้วเรื่องก็จบโดยประการฉะนี้

http://www.forbes.com/profile/li-ka-shing/


ID=1880,MSG=2079
ลูกค้าเราโทรได้ 24hr


⭐️ เราให้คำแนะนำปรึกษา รักษาผลประโยชน์ให้ลูกค้า ของเรา
⭐️ เราอยู่เคียงข้างลูกค้าของเรา ช่วยเหลือ ดูแลบริการ
⭐️ เรารองรับช่องทางติดต่อมากมาย สะดวก เข้าถึงง่าย
⭐️ เราดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า20 ปี คุณจึงมั่นใจได้
⭐️ คุณมีสามารถรับบริการทั้งจากบริษัทประกันเจ้าของสินค้า และ เรา (ตัวกลาง)

ไทย มีราว 80 บริษัทประกันภัย สินค้าที่แตกต่าง ทั้ง เงื่อนไข ราคา เคลม ความมั่นคง นโยบาย ฯลฯ
ขายผ่านตัวกลาง กว่า 500,000 ราย : ตัวแทน นายหน้า ธนาคาร บิ๊กซี โลตัส ค่ายรถยนต์ เฮ้าส์แบรนด์ ของประกันภัย หรือ ซื้อตรงกับบริษัทเจ้าของสินค้า
⭐️ ตัวอย่าง การบริการ กดดูที่ลิงค์นี้

"สิ่งที่ต้องคำนึงอันดับแรกในการซื้อประกัน คือ ตัวกลางประกันภัย ซึ่งจะเป็นที่ปรึกษา ช่วยเหลือ ดูแลเรา ตลอดอายุกรมธรรม์"

โปรดรอ

display:inline-block; position:relative;
ลูกค้าเราโทรได้ 24hr



โทร.(จ-ศ : 9-16) เว้นวันหยุดฯ , ลูกค้าเรา บริการ 24/7/365 , Sunday เวลา 02:05:35pm... กรุณาติดต่อ ช่องทางข้อความ
Copyright © 2018 Cymiz.com., All rights reserved.นโยบาย,ข้อตกลงcymiz.com