ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ-บทสรุป

ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ-บทสรุป

โอกาสที่เข้ามาในชีวิตจะปล่อยให้มันผ่านไป หรือจะไขว่คว้าไว้ดี...
เหตุใด คนที่อยากรวยหลายๆคน จึงไม่รวยเพราะความเสี่ยงนี่เอง...คนไม่กล้าเสี่ยง ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง ก็เลยต้องทำอย่างที่เคยทำอยู่ทุกวันเพราะมันมีความมั่นคงกว่า....
ทำไมคนบางคนจึงรวย และทำไมคนอีกบางคนจึงไม่รวย "เพราะเขาไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรดีกว่าที่เขาทำอยู่ครับ"
มันมีสาเหตุ...
"แล้วเธอรู้หรือยังว่าจะทำอะไรจึงจะรวยได้"
"แล้วทำไมเธอจึงเลิกทำนาก่อนที่จะเจอวิธีที่รวยล่ะ
ทำไมจึงไม่ทำนาไปแล้วก็หาหนทางไปด้วย"

"เพราะผมมีเวลาไม่มากนี่ครับ"

"แสดงว่าคนอื่นๆ เขาคิดว่าเขามีเวลามากล่ะสิ
จึงค่อยๆ หาไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ"
ทำไมต้องทำวันนี้ อีก 100 ปีค่อยทำก็ได้ ::)

"สิ่งแรกที่สุดเลยก็คือ... ความฝัน"

"ต่างคนก็ต่างมีความฝันของใครของมัน
บางคนก็อยากมีชีวิตที่พออยู่พอกินก็พอแล้ว
บางคนก็อยากใช้ชีวิตสงบสบาย ท่ามกลางสวน
บางคนก็ขอให้มีงานทำ มีครอบครัวที่อบอุ่น
และบางคนก็อยากร่ำรวยมหาศาล..."

"ไม่ว่าจะเป็นอะไร นั่นมันก็เป็นความฝันของใครของมัน
คนที่ไม่ได้ฝันว่าจะร่ำรวย เขาก็ไม่ได้เดินบนถนนที่จะนำพาให้เขาร่ำรวย...
แต่พวกเขาก็ยังเดินอยู่บนเส้นทางของพวกเขา
รวมทั้งเดินไปด้วยความสุขใจที่ ความฝันเป็นจริง"

"ความสุขที่เกิดจากความรู้จักพอของพวกเขา
เป็นความสุขที่น่าอิจฉา ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยกาย
แต่จิตใจก็สบาย แต่ก็จะมีบางคนที่อยู่อย่างพอเพียงไม่เป็น
ไม่รู้จักประมาณตนเอง ชีวิตก็จะเดือดร้อน
หาเงินมาได้ก็เป็นค่าผ่อนโน่นผ่อนนี่ ค่าดอกเบี้ยค่าอะไรต่อมิอะไร
ทั้งๆที่วัตถุนิยมเหล่านั้น มันไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นในการยังชีพเลย
แต่มันจำเป็นสำหรับหน้าตา... แล้วก็พากันนำเงินที่จะได้ในอนาคต
เอามาใช้ในปัจจุบัน ถึงแม้จะต้องเสียดอกเบี้ยก็ยอม
เขาจะมีความสุขกว่านี้ หากมีสิ่งเหล่านั้น ตามความเป็นจริง
ตามการประมาณตนเองว่าตอนนี้เขาควรจะมีอะไรได้บ้างแล้ว"

"หลายๆ คนจึงอยู่อย่างไม่มีความสุข ทั้งๆที่เขาสามารถมีความสุขได้..."

กลุ่มที่มีความฝันว่าอยากรวย
แต่ก็ไม่สามารถที่จะรวยได้...
หลายๆ คนในกลุ่มนี้ เกิดจากการวางแผนผิด
รู้ก็ทั้งรู้ว่า การจะรวยได้ จำเป็นจะต้องเอาเงินไปต่อเงิน
ลำพังเพียงแค่การใช้แรงกายแลกเงินตรามานั้น
มันไม่สามารถทำให้ร่ำรวยได้หรอก
ทุกคนเกิดมาก็มี 24 ชั่วโมงเท่ากันหมด
คนที่รวยได้ เขาไม่ได้มีเวลามากกว่าคนอื่นเลย
แต่เขาสามารถบริหารเงินและเวลาของเขาได้ดีกว่าคนอื่น"

"แล้วทำไมคนที่ไม่รวย เขาจึงไม่ทำในแบบที่จะทำให้รวยล่ะครับ"
"เขาไม่สามารถเอาชนะใจตัวเองได้ เขาไม่สามารถเอาชนะสิ่งที่มายั่วยวนเขาได้"
"ก็พวกวัตถุนิยมนั่นแหล่ะ ทำงานหาเงินมาได้ เหลือจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว มันเหลือพอที่จะผ่อนรถได้ เขาก็เอาไปผ่อนรถ เอาไปผ่อนบ้าน บางคนก็ใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่ายก็มี"

"บางครั้งวางแผนผิด ไม่ได้เผื่อเหตุสุดวิสัยไว้ เมื่อถึงคราวเหตุสุดวิสัยขึ้นมา ก็ต้องสร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นอีก เวลาที่พอมีเหลือ ก็ต้องเอาไปทำงานหาเงินมาใช้หนี้
ในที่สุดก็จะติดกับดักอยู่ตรงนั้น เงินที่หามาได้ก็หมดไปกับรายจ่ายที่ตนเองสร้างขึ้น เวลาที่จะใช้หาเงินเพิ่มก็หมด เงินที่ควรจะนำมาต่อเงินก็หมด และที่หมดไปเลยก็คือ โอกาสที่จะร่ำรวย เพราะจะไม่ทำงานก็ไม่ได้ เพราะต้องมีเงิน และที่สำคัญ ตกงานก็ไม่ได้ เพราะเอาเงินในอนาคตมาใช้ในปัจจุบันหมดแล้ว คนเหล่านี้จึงกอดงานเขาไว้แน่น หมดโอกาสที่จะไปทำอะไรได้อีก"
อยากจะรวย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะติดอยู่ในกับดักเสียแล้ว

"ผมโชคดีจังที่สามารถตกงานได้... ไม่ต้องมีเงื่อนไขของหนี้สินมาบีบเร้า"
"ใช่... มันทำให้เธอยังมีโอกาสที่จะร่ำรวยอยู่"

"โอกาสก็ไม่มีเพราะเวลาหมดไปกับการใช้แรงงานแล้ว แถมเงินที่จะเอาไปต่อเงินก็ไม่มีอีก..."

การพนัน สาวงาม หรือ ความสุขส่วนตัว ก็เป็นตัวทำให้คนล้มเหลวมามากต่อมากนัก เพราะ... นำเงินออกไปใช้นอกระบบกับเรื่องพวกนั้น

"เธอโชคดีที่ไม่ได้เรียนจบสูงๆ โชคดีที่เป็นคนจน"
"หลายๆ คนที่เรียนจบสูงๆ มา มักจะเป็นน้ำที่เต็มแก้ว หลายๆ คนที่เกิดมารวย มักจะไม่ติดดิน เรื่องหน้าตาในสังคม อีกอย่างที่เป็นอุปสรรค"

"เอาเป็นว่า เธอรู้แล้วว่า มีกับดักต่างๆ บนเส้นทางมากมายที่จะคอยกันเธอไม่ให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้น ให้เธอมีสติตลอดเวลาฉันจะให้แค่คำปรึกษาแก่เธอ อย่างเดียว
นอกนั้นเธอต้องทำด้วยตัวของเธอเอง..."

"ในทุกวัน เธอต้องมีรายจ่ายประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าข้าวของเครื่องใช้... เธอจงหาวิธีให้มีเงินมาจ่ายสิ่งเหล่านั้น โดยที่เธอไม่ต้องทำอะไรให้ได้..."

"เริ่มต้นก็คงต้องทำอะไรๆ นั่นแหล่ะ แล้วเมื่อถึงเวลาหนึ่ง ก็หยุดทำ แต่ยังได้เงินอยู่... ส่วนจะทำอย่างไรนั้น เธอต้องมองหาวิธีเอาเอง... โอกาสมีเสมอในท้องถนน
เธอจงหาโอกาสนั้นให้เจอ..."

"จริงๆแล้ว หนูอยากดื่มน้ำอ้อยมากกว่า แต่ไม่เห็นมีใครเอามาขายเลย"...เสียงของสาวโรงงานคนที่ซื้อน้ำตาลปึกสองก้อนของเขา
ดังก้องขึ้นมาในหู

"ผมมีเงินติดตัวแค่สองบาทเองครับ" ชายหนุ่มตอบ
"ผมเลยตั้งใจว่าจะทำงานแลกกับน้ำอ้อยคุณป้า ได้ไหมครับ"

"ผมอยากขอยืมกระติกน้ำแข็งของป้าอันนั้นได้ไหมครับ"1
"ตอนค่ำๆ ครับ ก่อนผมจะกลับบ้าน... ป้าให้ผมยืมได้ไหมครับ"2

แบ่ง 10% ของรายได้ เพื่อทำประโยชน์แก่ผู้อื่น"

ทำอย่างไร ที่จะหยุดทำงานแล้วยังคงได้เงินอยู่
"มีสิ ถ้าเธอสังเกตุดีๆ บวกกับความคิดอีกสักนิด เธอก็จะเจอวิธีที่ฉันพูดถึง..."

"แต่ละคน จะไม่มีวิธีการที่แน่นอนถูกต้อง ขึ้นอยู่กับคนๆ นั้น ฉันก็จะทำอีกอย่างหนึ่ง เธอก็จะทำในแบบของเธอ คนอื่นก็จะทำในแบบของเขา
แต่ ทุกแบบที่ทำ อยู่บนพื้นฐานเดียวกันคือ หยุดทำ แต่ยังมีรายได้เข้ามาอยู่... ดังนั้น เธอต้องหาให้เจอด้วยตัวของเธอเอง"

ความต้องการซื้อยังมีมากกว่าสินค้าที่เขานำมาขาย...

"มีโรงงานที่ใหญ่กว่านี้อีกนะ เอ็งรู้หรือเปล่า"

"ถ้าผมเอาตู้แช่กระจกนี้มาลงและฝากป้าขายให้นี่ จะได้ไหมครับ... ผมส่งของให้ป้าขวดละ 8 บาท"

หนึ่งเดือนผ่านไป
หนุ่มน้อยชาวนา กลายมาเป็นคนขายส่งน้ำอ้อยสด ลงตู้แช่ฝากขายกับแม่ค้าในที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก

"ไม่น่าเชื่อว่า เพียงเดือนเดียว เธอจะสามารถวางระบบการบริหารจัดการ จนวางมือปล่อยให้ระบบมันเดินไปได้เอง"

"ฉันเห็นมาเยอะ...
คนที่เก่งแล้วพยายามทำทุกอย่างเอง แต่เขาไม่รู้หรอกว่า มีคนเก่งกว่าเขา ทำให้ธุรกิจของเขาเสียโอกาสที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด"

"คราวนี้เธอก็เข้าใจแล้วสิว่า หยุดทำงานแล้ว แต่ยังมีรายได้อยู่ มันทำได้อย่างไร

"ลำดับต่อไปของเธอก็คือ ขยายตัวสินค้าเพิ่ม และคิดว่าจะเอากระแสเงินสดที่ได้มา ไปทำอะไรต่อ"

"โอกาสมันมีเยอะแยะก็จริง
แต่ลื้อมีเวลาเหลืออีก 11 เดือนเอง
ต้องเป็นโอกาสใหญ่ๆ เท่านั้น จึงจะบรรลุเป้าหมายได้"

"พูดถึงเรื่องโอกาสแล้ว
ผมส่งลูกน้องคนหนึ่งไปดูตลาดรองเท้าที่เมืองคูขาด
ตั้งใจว่าจะเข้าไปตีตลาดที่เมืองนี้
แต่ลูกน้องกลับมารายงานว่า ทำตลาดไม่ได้หรอก"

"ให้ผมไปทำตลาดที่เมืองคูขาดให้เฮีย เอาไหมครับ"

"ผมสนใจจริงๆนะเฮีย
ผมคิดว่า ถึงมันจะยาก... แต่มันเป็นไปได้ ครับ"

"เอารองเท้าไปขาย... แต่อย่าขายรองเท้าให้เขา"

"การจะเป็นคนที่แตกต่างจากคนทั่วไป
เราจำเป็นจะต้องคิดไม่เหมือนพวกเขา
ถ้าเราคิดเหมือนเขา... เราก็จะเป็นเหมือนพวกเขา"

"คนทั่วๆไป มักจะทำอะไรๆ ที่มันไม่ยุ่งยากซับซ้อน
เพราะมันง่ายกว่ากันเยอะเลย เขาไม่ค่อยอยากจะเสี่ยงกับเรื่องอะไร
ปล่อยให้ชีวิตมันดำเนินไปเรื่อยๆ ของมัน
แต่ไม่ใช่ความผิดของเขาหรอก
เพราะเขาก็มีความสุขในแบบของเขา"

"เมื่อเธอต้องการที่จะแตกต่างจากพวกเขา
เธอจึงพูดว่า ถึงมันจะยาก... แต่มันก็เป็นไปได้
ส่วนคนที่พูดว่า ถึงมันจะเป็นไปได้... แต่มันก็ยาก
ความมุ่งมั่น ทุ่มเทของสองคนนี้ก็ต่างกันแล้ว"

"เหมือนกับคนที่บอกตัวเองว่า อยากรวย
กับคนที่บอกกับตัวเองว่า ต้องรวย
เราสามารถทำนายอนาคต คนทั้งสองได้เลย"

"เมื่อเธอตัดสินใจแล้วว่าจะทำ
ฉันก็อยากจะให้ข้อคิดเธอไปข้อหนึ่ง
เธอเอารองเท้าไปขายก็จริง แต่จงอย่าขายรองเท้าให้เขา"

คำพูดของลุงชาวเมือง
ทำให้เขาเชื่อมั่นมากขึ้นไปอีกว่า
หากใครได้ใส่รองเท้า รับรอง ชีวิตนี้ เขาจะขาดรองเท้าไปไม่ได้...

เขากำลังตัดสินใจว่าจะยอมแพ้ แล้วขนรองเท้ากลับ
หรือจะสู้ต่อดีนะ เพราะเขามีเวลาไม่มาก
ไม่มีเวลามากพอ ที่จะค่อยๆ ทำให้คนใส่รองเท้ากัน ทีละนิด

ชายหนุ่มจัดการหาห้องเช่าได้แห่งหนึ่ง เพื่อเป็นโกดังเก็บรองเท้า
และเขาสั่งให้ลูกน้องขนรองเท้าลงจากรถเข้าโกดังให้หมด
เสร็จแล้วให้นำรถกับรองเท้าส่วนหนึ่งไปเจอเขาที่ตลาด
จากนั้นชายหนุ่มก็ตรงดิ่งสู่ตลาดกลางทันที
เขาเดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าเกือบทุกเจ้าในตลาด

เขาติดป้ายตัวใหญ่บะเร่อเทิ่มว่า....
"รับซื้อสินค้าการเกษตรทุกชนิด"

ชาวเมืองส่วนใหญ่จะทำการเกษตรเป็นหลัก
ดังนั้นสินค้าการเกษตรที่เขานำมาขายจึงมีราคาไม่แพง
ข้อมูลที่ได้ก็มาจากการที่เขาเดินทักทายพ่อค้าแม่ค้านั่งเอง

นอกจากเงินที่ชาวเมืองได้กลับไป
ยังได้รองเท้ากลับไปอีกด้วย
บางคนก็ได้รองเท้าคู่หรือสองคู่
บางคนก็ได้มากกว่านั้น ตามปริมาณสินค้าที่นำมาขาย

ไม่น่าเชื่อว่า การขายรองเท้าโดยวิธีรับซื้อสินค้าจะได้ผล
ใช้เวลาไม่นาน สินค้าเกษตรก็เต็มรถ
ส่วนรองเท้าของเขาก็หมดไปเกินกว่าครึ่งหนึ่งที่เขานำมา

แต่สิ่งที่เธอทำ ก็เข้าท่าดีเหมือนกันนะ
ขายโอกาส... ให้ชาวเมืองนั้นได้ใส่รองเท้า"

"ผมจะตั้งทีมที่ปรึกษาเพื่อวางแผนบริหารงานเหล่านั้น
รวมทั้งงานอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกครับ"

ทั้ง 3 ธุรกิจของเขาคือ
1.โรงงานผลิตน้ำอ้อยสด ให้เพิ่มการผลิตน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆ พร้อมพัฒนาบรรจุภรรณ์
2.ร้านสรรพสินค้าที่เมืองคูขาด เพิ่มสินค้าให้มากขึ้นเรื่อยๆ
3.กิจการรับซื้อสินค้าทางการเกษตร พัฒนาทั้งการซื้อการขาย ให้ครบวงจร

หลังจากเบาใจในเรื่องการบริหารจัดการแล้ว ชายหนุ่มก็มีโอกาสได้ใช้สมองในการคิดหาโอกาสใหม่ๆ มากขึ้น ดังนั้น ชายหนุ่มจึงเริ่มมองเห็นโอกาสใหม่ อีกโอกาส








ID=1860,MSG=2058
ลูกค้าเราโทรได้ 24hr


⭐️ เราให้คำแนะนำปรึกษา รักษาผลประโยชน์ให้ลูกค้า ของเรา
⭐️ เราอยู่เคียงข้างลูกค้าของเรา ช่วยเหลือ ดูแลบริการ
⭐️ เรารองรับช่องทางติดต่อมากมาย สะดวก เข้าถึงง่าย
⭐️ เราดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า20 ปี คุณจึงมั่นใจได้
⭐️ คุณมีสามารถรับบริการทั้งจากบริษัทประกันเจ้าของสินค้า และ เรา (ตัวกลาง)

ไทย มีราว 80 บริษัทประกันภัย สินค้าที่แตกต่าง ทั้ง เงื่อนไข ราคา เคลม ความมั่นคง นโยบาย ฯลฯ
ขายผ่านตัวกลาง กว่า 500,000 ราย : ตัวแทน นายหน้า ธนาคาร บิ๊กซี โลตัส ค่ายรถยนต์ เฮ้าส์แบรนด์ ของประกันภัย หรือ ซื้อตรงกับบริษัทเจ้าของสินค้า
⭐️ ตัวอย่าง การบริการ กดดูที่ลิงค์นี้

"สิ่งที่ต้องคำนึงอันดับแรกในการซื้อประกัน คือ ตัวกลางประกันภัย ซึ่งจะเป็นที่ปรึกษา ช่วยเหลือ ดูแลเรา ตลอดอายุกรมธรรม์"

โปรดรอ

display:inline-block; position:relative;
ลูกค้าเราโทรได้ 24hr



โทร.(จ-ศ : 9-16) เว้นวันหยุดฯ , ลูกค้าเรา บริการ 24/7/365 , Sunday เวลา 12:50:06am... กรุณาติดต่อ ช่องทางข้อความ
Copyright © 2018 Cymiz.com., All rights reserved.นโยบาย,ข้อตกลงcymiz.com