อยู่กับปัจจุบัน

อยู่กับปัจจุบัน

การไม่อยู่กับปัจจุบัน ทำให้เกิดทุกข์ คนที่ทุกข์มักจมอยู่กับอดีตและหวังไปในอนาคต  อยู่กับความผิดหวังความไม่พอใจ ติดอยู่กับความสุข ความสมหวังในอดีตที่ผ่านไปแล้ว
และอยู่กับความคาดหวังในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ฝันว่าจะต้องรวย ประสบความสำเร็จ มีครอบครัวที่อบอุ่น จนแม้กระทั่งหวังบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์สำหรับบางท่าน

                  การไม่อยู่กับปัจจุบัน ย่อมนำมาซึ่งความทุกข์ เพราะต้องทุกข์ซ้ำซาก ซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับความผิดหวังความไม่พอใจ หรืออาจทุกข์เพราะโหยหาความสุขความสมหวังในอดีตที่ผ่านมาแล้วก็ได้  ในขณะเดียวกันก็ตั้งความหวังอันสวยหรูไว้ในอนาคตที่ไม่มีทางรู้แน่ว่าจะมาถึงหรือไม่? จนอาจคิดว่าจะมีความสุขได้จริงก็ต่อเมื่อได้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวแล้ว
แท้ที่จริง ความสุข เราสามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดเวลา ระหว่างทาง และ อยู่ในระหว่างการเดินทางของชีวิตต่างหาก

                  หากคิดว่า การจมอยู่กับอดีตที่หอมหวานและวาดหวังถึงอนาคตอันสดใส ก็ยังดีกว่าการต้องอยู่กับปัจจุบันที่ขมขื่นหรือไม่เป็นที่พอใจ ฟังดูเผินๆก็น่าจะใช่  แต่ในความเป็นจริงแล้วจิตนั้นเกิดดับเร็วมาก ทั้งความทุกข์และความสุขที่เกิดขึ้นก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว  เพียงแต่ว่าเรานำมาย้ำคิดครั้งแล้วครั้งเล่า จึงทำให้เกิดความทุกข์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์จากสิ่งที่ไม่น่าพอใจ หรือจะเป็นความทุกข์ด้วยความติดข้องต้องการในสิ่งที่น่าพอใจก็ตาม

                  ตัวอย่างของความทุกข์จากการไม่อยู่กับปัจจุบันมีให้เห็นทุกวัน เช่น เราโกรธใครบางคนที่ทำงาน นอกจากจะไม่พอใจในตอนนั้นแล้ว หลายครั้งที่เราพกพาความไม่พอใจนั้นกลับบ้านมาด้วย  ซึ่งบางครั้งก็กินเวลาหลายวันกว่าจะลืมหรืออาจนานเป็นปีก็เป็นไปได้

                  ในขณะเดียวกันการหวังไปในอนาคตก็ทำให้เราต้องฝากความสุขของเราไว้กับเหตุการณ์ที่ยังมาไม่ถึงตลอดเวลา โดยบางเรื่องต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิต ซึ่งพอเกิดขึ้นจริงก็ให้ความสุขสมหวังเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ไม่นานความรู้สึกดังกล่าวก็ผ่านไปและกลายเป็นอดีตอีก

                  ยิ่งเราอยู่กับปัจจุบันได้มากเท่าไร ความทุกข์ก็จะลดน้อยลงได้เท่านั้น เพราะปัจจุบันขณะเกิดดับอย่างรวดเร็ว  จะมีจริงก็แต่ทุกข์ทางกาย เช่นในเวลาที่เจ็บป่วย ซึ่งหากทำใจได้ ความทุกข์ที่เหลือส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงความทุกข์ทางกาย อย่างความเจ็บปวดไม่สบายกายหรือความไม่สะดวก เช่น ไม่สามารถเคลื่อนไหว ได้เห็นได้ยิน ฯลฯ ดังคนปกติ  ส่วนความทุกข์ทางใจที่เกิดจากการคิดนึกไปในอดีตและอนาคต รวมทั้งการปรุงแต่งก็จะบรรเทาลงได้ตามกำลังปัญญาของแต่ละคนที่จะมีสติระลึกรู้ถึงปัจจุบันขณะด้วยความเห็นถูกนั่นเอง

ที่มา...พระไพศาล วิสาโล

"เวลาเงินหาย หรือทรัพย์สินมีอันเป็นไป คนส่วนใหญ่มักทุกข์จนลืมไปว่าตนยังมีทรัพย์สินอีกมากมาย อาจจะมีจำนวนหลายสิบหลายร้อยเท่าของที่สูญเสียไปด้วยซ้ำ
แทนที่จะมัวคร่ำครวญ กับสิ่งที่เสียไป ไม่ดีกว่าหรือ ที่เราจะหันมาใส่ใจกับสิ่งที่ยังมีอยู่อีกมากมาย"

"สิ่งที่สูญเสียไป ไม่ใช่อะไรอื่น หากคืออดีต เหตุใดเราจึงหวงแหนยึดติดกับอดีตที่เจ็บปวด แทนที่จะใส่ใจกับคุณค่า หรือสิ่งดีๆที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพียงปล่อยวางอดีต
หันมาให้คุณค่าหรือชื่นชมกับสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เราก็จะเป็นสุขได้ไม่ยาก

http://www.nickworthey.com/images/bankrupt-producer.jpg

เราสูญเสียอะไรไปมากมายเพียงใด ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าเรามีอะไรอยู่ในปัจจุบัน หากเราให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีอยู่ในขณะนี้ ก็จะพบว่าความสุขมีอยู่รอบตัว ความข้อนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องทรัพย์สมบัติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขภาพร่างกายด้วย

สว่าง ทองดี
นักปั่นจักรยานวิบากข้ามประเทศ เล่าถึงประสบการณ์คราวหนึ่ง ที่ได้ไปเยือนภูเขาหิมาลัยและเทือกเขาเอเวอร์เรสต์ว่า
เขารู้สึกประหลาดใจ ที่ได้พบเห็นเพื่อนร่วมทางหลายคน เป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย บางคนก็แขนขาดขาขาด แต่พวกเขาสามารถบุกบั่นดั้นด้นไปยังที่ธุรกันดาร
แม้แต่คนธรรมดาก็ทำได้ยาก

คนป่วยและคนพิการเหล่านั้นทำได้อย่างไร
ในที่สุดเขาก็พบคำตอบว่า

http://www.jeremyville.com/new_work3/dreamscapes/remembr2forget_sml.jpg

"หากคิดจะก้าวไปข้าวหน้าแล้ว จงอย่าคิดถึงสิ่งที่เราไม่มีหรือข้อด้อยของตัวเอง แต่ให้มองว่าเรามีสิ่งใดอยู่กับตัวบ้าง การจะทำฝันให้สำเร็จได้นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราได้ใช้สิ่งที่เรามีอยู่แค่ไหนต่างหาก"

เมื่อประสบความสูญเสีย อย่ามัวอาลัยคร่ำครวญกับสิ่งที่เสียไป เพราะนั้นจะทำให้เราหลงลืมสิ่งที่งดงามที่ยังมีอยู่อีกมากมาย และละเลยประโยชน์ที่ได้รับจากสิ่งเหล่านั้น
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งที่สามารถเกิดกับเราได้หากไม่จมปลักอยู่ในความคร่ำครวญเสียใจ นั่นคือ บทเรียนจากความสูญเสีย

ความสูญเสียทุกครั้ง ล้วนบอกแก่เราว่า
ไม่มีอะไรที่เป็นของเราอย่างแท้จริง ทุกอย่างมาแล้วก็ไป
ความพลัดพรากเป็นเรื่องธรรมดา

ความสูญเสียแต่ละครั้งยังเป็นเสมือนสัญญาณเตือนเราว่า
"จะมีความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น เลวร้ายกว่านั้นตามมาอีกในอนาคต"
ดังนั้น หากเราทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เราจะรับมือกับความสูญเสียยิ่งกว่านั้นได้อย่างไร

ความสูญเสียที่ทยอยเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันนั้น มิใช่อะไรอื่น
หากคือแบบฝึกหัดเพื่อให้เราฝึกทำใจแต่เนิ่นๆ
จะได้มีความพร้อมสำหรับเหตุร้ายที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต

เราทุกคนเกิดมาตัวเปล่า
เมื่อถึงเวลาก็ต้องจากไปตัวเปล่า
อะไรที่ได้มาก็เอาไปไม่ได้สักอย่าง
ในเมื่อจะต้องสูญเสียทุกอย่างอยู่แล้ว
หากจะต้องสูญเสียวันนี้ พรุ่งนี้ หรือเมื่อถึงวันนั้น
ก็ไม่ได้แตกต่างกันสักกี่มากน้อย

นิตยสารซีเคร็ต


ID=1694,MSG=1880
ลูกค้าเราโทรได้ 24hr


⭐️ เราให้คำแนะนำปรึกษา รักษาผลประโยชน์ให้ลูกค้า ของเรา
⭐️ เราอยู่เคียงข้างลูกค้าของเรา ช่วยเหลือ ดูแลบริการ
⭐️ เรารองรับช่องทางติดต่อมากมาย สะดวก เข้าถึงง่าย
⭐️ เราดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า20 ปี คุณจึงมั่นใจได้
⭐️ คุณมีสามารถรับบริการทั้งจากบริษัทประกันเจ้าของสินค้า และ เรา (ตัวกลาง)

ไทย มีราว 80 บริษัทประกันภัย สินค้าที่แตกต่าง ทั้ง เงื่อนไข ราคา เคลม ความมั่นคง นโยบาย ฯลฯ
ขายผ่านตัวกลาง กว่า 500,000 ราย : ตัวแทน นายหน้า ธนาคาร บิ๊กซี โลตัส ค่ายรถยนต์ เฮ้าส์แบรนด์ ของประกันภัย หรือ ซื้อตรงกับบริษัทเจ้าของสินค้า
⭐️ ตัวอย่าง การบริการ กดดูที่ลิงค์นี้

"สิ่งที่ต้องคำนึงอันดับแรกในการซื้อประกัน คือ ตัวกลางประกันภัย ซึ่งจะเป็นที่ปรึกษา ช่วยเหลือ ดูแลเรา ตลอดอายุกรมธรรม์"

โปรดรอ

display:inline-block; position:relative;
ลูกค้าเราโทรได้ 24hr



โทร.(จ-ศ : 9-16) เว้นวันหยุดฯ , ลูกค้าเรา บริการ 24/7/365 , Sunday เวลา 05:39:37pm... กรุณาติดต่อ ช่องทางข้อความ
Copyright © 2018 Cymiz.com., All rights reserved.นโยบาย,ข้อตกลงcymiz.com