ส่วนหนึ่งของ ระบบการจ่ายทดแทนเกี่ยวกับชีวิตที่เรียกว่า "การประกันชีวิต"

 
 
 

หลักการและเหตุผล

ชีวิตปกติของคนเรา เริ่มตั้งแต่เกิดจนโตขึ้นเข้าสู่วัยศึกษาเล่าเรียน และสู่วัยทำงานสร้างฐานะ เพื่อที่จะแน่ใจได้ว่าอนาคตจะได้มีเงินใช้ ภายหลังจากทำงานเหนื่อยมาหลายสิบปี หวังว่าจะได้พักผ่อนอย่างสบายตอนบั้นปลายชีวิตในวัยเกษียณแต่ธรรมชาติของคน เมื่อเกิดมา การแก่ การเจ็บ และการตาย หลีกเลี่ยงไม่พ้น ไม่เลือกวัยว่าเด็กหรือผู้ใหญ่  ชายหรือหญิง ไม่เลือกว่าเรียนอยู่หรือทำงานแล้ว ไม่เลือกว่าคนจนหรือคนรวยคนเราเกิดมา มีความต้องการพื้นฐานของมนุษย์คือ ปัจจัย 4 ได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค

ในสภาพสังคมปัจจุบัน คนเรายังมีความต้องการเพิ่มขึ้นอีก เช่น การศึกษาที่ดีของบุตร ต้องการมีรถ  ต้องการพักผ่อนท่องเที่ยวตามใจปรารถนา ภาระเลี้ยงดูครอบครัว เลี้ยงดูพ่อแม่ที่แก่เฒ่า เลี้ยงดูญาติพี่น้องที่อยู่ในอุปการะ ดูแลกิจการหรือธุรกิจ ภาระในการผ่อนชำระหนี้สิน เช่น หนี้สินธุรกิจ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ การซื้อสินค้าโดยระบบเงินผ่อน เป็นต้น

 

ความจำเป็นเหล่านี้ เราต้องมี เงิน หรือ ต้องมีรายได้ นี่คือหลักความจริง

โดยส่วนใหญ่  เรามีรายได้มาจากการทำงาน ซึ่งต้องอาศัย ความรู้ เวลา และเครดิตของคนๆนั้น แต่ชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ทุกคนมีความเสี่ยงภัยอยู่ตลอดเวลา ภัยจากการไร้งาน ชรา ทุพพลภาพ และความตาย จะมีใครบอกได้ว่า วันพรุ่งนี้ของเราจะมีหรือไม่  หากวันนี้เรานอนหลับแล้ว พรุ่งนี้เช้าเราไม่ตื่นขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้น ภาระต่างๆ ใครจะรับผิดชอบ

 

อย่าให้ปล่อยปัญหาเหล่านี้มาสร้างหนี้โดยอัตโนมัติ  ครอบครัวของเราควรจะมีหลักประกันว่า "จะต้องมีมาตรฐานการครองชีพเหมือนเดิมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"

เนื่องจากทุกคนมีโอกาสที่จะพบเหตุการณ์ดังกล่าว เราจึงพยายามที่จะหาทางเลือกเพื่อแก้ปัญหา ได้แก่

 

ปล่อยตามยถากรรมอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เมื่อถึงเวลาเกิดขึ้นคงมีวิธีแก้ไขได้เองสัญญากับตัวเองและครอบครัวว่าจะไม่เจ็บจะไม่ป่วย จะไม่พิการ จะไม่จากไปไหนหาเงินให้ได้มากที่สุดในยามที่มีความสามารถในการหารายได้ จะทำงานหาเงิน และ เก็บเงินให้มากที่สุด แต่ปัญหาคือ เงินที่เราเก็บอยู่นั้นเพียงพอที่จะแบกภาระทั้งหมดเมื่อเราไม่อยู่หรือไม่เก็บเล็กผสมน้อยค่อยๆ เก็บ อาจจะเป็นฝากประจำ ฝากแบบเงินต้นเท่ากันทุกงวด นาน 5 ปี, 10 ปี, 20 ปี หวังว่าจะต้องเป็นเงินก้อนใหญ่ในอนาคต แต่เราจะการันตีได้อย่างไรว่า เราจะสามารถฝากได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สะดุด หากเราหรือพ่อแม่ พี่น้อง เจ็บป่วยหนัก จะไม่ถอนออกมาใช้ได้หรือไม่ หรือจะยืนกรานอดทนต่อสิ่งยั่วยวนที่จะต้องทำให้เราถอนเงินได้นานเพียงไร และถ้าต้องจากไปก่อนวัยอันควร โดยที่เป้าหมายเงินออมยังไม่บรรลุ จะมีใครช่วยฝากต่อหรือไม่นำเงินไปลงทุนในความเป็นจริง ผลตอบแทนมาก ความเสี่ยงย่อมสูงมาก ใครจะรับประกันได้ว่าลงทุนทุกครั้ง กำไรทุกครั้ง ใครจะรับประกันได้ว่าไม่มีการขาดทุน

 

เก็บเงินแบบเป็นระบบ และ รับรองเป้าหมาย
หากต้องจากไปก่อนวัยอันควร ครอบครัวจะยังอยู่ได้สามารถมีเงินใช้ บุตรได้มีโอกาสเรียนจบ คนที่อยู่ได้มีเวลาดูแลบุตร พ่อแม่ผู้แก่เฒ่ามีเงินไว้ใช้จ่าย หากโชคดีอายุยืนก็จะมีเงินไว้ให้ตัวเองใช้ในยามชรา โดยไม่จำเป็นต้องเอาเงินก้อนโตมาฝาก เราสามารถทยอยเก็บทีละน้อยได้การแก้ปัญหาวิธีนี้ก็คือ โครงการที่จะนำเสนอ …

( นอกจากนี้โครงการดังกล่าวสามารถนำไปลดหย่อนภาษี และได้สิทธิต่างๆมากมาย )